เรื่องราวของสุนัขที่ตายลงในสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เกิดขึ้นอีกแล้ว โดยเป็นการโพสต์ข้อความของกลุ่มวอยช์ด็อช ที่ติดตามดูแลสัตว์ที่ถูกทารุณกรรม โดยเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานมีสุนัขหล่นจากอาคารเรียนชั้น 3 และตกลงมาและดิ้นทุรนทุรายก่อนจะขาดใจตาย หลังจากนั้นพนักงานเจ้าหน้าที่ยามก็เร่งเก็บศพหมาออกไป โดยคณาจารย์และนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยชี้แจงว่า ช่วงเวลาสอบ จะมีอาจารย์คุมสอบอยู่ในห้อง กับนักศึกษา และจะมีอาจารย์ที่เป็นประธานอำนวยการคุมสอบ จะเดินสำรวจแต่ละห้อง เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ซึ่งการตายของสุนัข ตัวนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการหล่นจากตึกลงมาเอง หรือเป็นฝีมือของมนุษย์ ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธร ปะทิว จังหวัดชุมพร ได้รับเรื่องไปดำเนินการสอบสวน หากเป็นมนุษย์ทำก็จะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์
ทีมข่าวไบรท์ทีวี ตรวจสอบไปที่นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ เจ้าของสุนัข เปิดเผยว่าสุนัขชื่อ หลวง อายุ 1 ปี ซึ่งตนเองเลี้ยงไว้ระหว่างที่อาศัยหอพักหน้ามหาวิทยาลัย เจ้าหลวงมักจะชอบติดตามมหาวิทยาลัยด้วย แต่จะไม่ตามขึ้นอาคารเรียน และบางครั้งตนเองต้องกักขังเอาไว้ที่หอพัก แต่เมื่อวานนี้ซึ่งเป็นวันสอบของคณะฯ ตนเองจึงรีบเดินทางไป จนลืมที่จะขังเจ้าหลวงเอาไว้ และหลวงจึงได้วิ่งตามมาถึงสถาบัน เมื่อตนเองขึ้นไปสอบที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 3 ในเวลา 9 โมงซึ่งเป็นห้องสอบ ก็ได้เห็นเจ้าหลวงครั้งสุดท้าย นั่งรออยู่ที่หน้าห้องชั้น 3 และ ในระหว่างที่นั่งสอบ ตนเองและเพื่อนๆๆในห้องก็ได้ยินเสียงเหมือนสุนัขถูกตี แต่และสามารถออกมาดูได้ จนกระทั่ง นั่งสอบไปเป็นเวลา 2 ชั่งโมง สอบเสร็จตอน 11 โมง ลงมาจากห้องสอบ เพื่อนก็บอกว่า เจ้าหลวงตายแล้ว ซึ่งตนเองเสียใจมาก และวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาสอบสวน
พันตำรวจธานินทร์ อินทสระ สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปะทิว ลงไปตรวจสอบพื้นที่ช่วงเช้าที่พบว่า จุดที่เจ้าหลวง ตกลงมาตาย บริเวณด้านหน้าระเบียงของ อาคารเฉลอิมพระเกียรติไม่มีช่องว่าง ที่จะทำให้ตกลงมาเองได้ แต่ยังไม่ทิ้งประเด็นตกลงมาตายเอง เพราะพบว่าหน้าห้องมีการนำเก้าอี้มาวางไว้ใก้ลระเบียง ส่วนกล้องวงจรปิด มีเพียงชั้น 2 แต่ในชั้น 3 ที่อยู่บริเวณหน้าห้องสอบที่เจ้าของเห็น สุนัขคอยอยู่ไม่มีกล้องวงจรปิด แต่จะเป็นฝีมือมนุษย์หรือไม่ต้องสอบสวนกันอีกครั้งเพราะต้องสอบจากพยานบุคคลก่อน ถึงจะดำเนินคดีได้