เด็ก ม.2 ร้องผ่านมูลนิธิปวีณาฯ ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนตั้งแต่อายุกว่า 10 ขวบ จนท้อง ซ้ำพ่อเลี้ยงใส่ร้าย บอกแม่แท้ๆ ว่าเด็กใจแตก หลังคลอดแผลยังไม่หายดี พ่อเลี้ยงจะข่มขืนอีก พอไม่ยอมก็ทำร้ายน้องสาวอีก 2 คน ซึ่งเป็นลูกแท้ๆ ของพ่อเลี้ยงกับแม่ จำต้องยอม แทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ วอนมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยพ้นขุมนรก
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี เปิดเผย กับทีมข่าวว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย. หลังจากที่มีสาวอายุ 15 ปี แอบแชทเฟซบุ๊กมาที่แฟนเพจเฟซบุ๊กของมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดยมีใจความว่า วันอังคารที่ 30 มี.ค. 61 น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ถูกพ่อเลี้ยงติดยาข่มขืนตั้งแต่อายุ 10 ขวบ แม่แท้ๆ ก็ไม่สนใจ ไปทำงานนวดแผนไทยที่ต่างประเทศ
กระทั่งตั้งท้องกับพ่อเลี้ยงจนปัจจุบันคลอดลูกสาวออกมาได้ 3 เดือนแล้ว ซึ่งพ่อเลี้ยงมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด จะข่มขืนอยู่บ่อยครั้ง และกักขังบังคับให้อยู่แต่ในบ้านพักในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ต้องเลี้ยงลูกและอยู่กับน้องสาวต่างบิดาอีก 2 คน อายุ 10 ขวบ และอายุ 4 ขวบ ถ้าวันไหนไม่ยอมให้ข่มขืน พ่อเลี้ยงก็จะระบายอารมณ์ทุบตีน้อง 2 คน เพื่อบีบบังคับให้ตนเองยอมทำตาม แถมยังใส่ร้ายบอกกับแม่และชาวบ้านว่า ตนเองเป็นเด็กใจแตก เที่ยวเตร่ถูกข่มขืนจนท้องไม่มีพ่อ
น.ส.เอ เล่าว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นหน้าพ่อแท้ๆ เพราะพ่อเลิกกับแม่ไปตั้งแต่แม่ตั้งท้องหนู พอหนูอายุได้ 2 ขวบ แม่ก็มีสามีใหม่ชื่อ นายดำ (นามสมมติ) มีอาชีพเก็บขยะขาย และแม่มีลูกใหม่กับพ่อเลี้ยงอีก 2 คน เป็นเด็กผู้หญิง และหนูก็ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบ ตอนที่แม่ไม่อยู่บ้าน ซึ่งหนูกลัวมาก เมื่อหนูพยายามบอกเรื่องนี้กับแม่ พ่อเลี้ยงก็จะหาเรื่องดุด่าทุบตีแม่กับน้อง จนทำให้หนูไม่กล้าพูด
ต่อมาเมื่อต้นปี 2560 แม่ไปทำงานนวดแผนไทยที่ประเทศเกาหลี ซึ่งหนูกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.2 ปล่อยให้หนูอยู่กับพ่อเลี้ยงและน้องอีก 2 คน อายุ 10 ขวบ และอายุ 4 ขวบ
หลังจากนั้นก็ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนเรื่อยมา ถ้าหากวันไหนขัดขืน ไม่ยอม พ่อเลี้ยงก็จะตีน้องทั้ง 2 คน เพื่อบีบบังคับ จนต้องจำใจยอมทุกครั้ง จนกระทั่งตั้งท้องกับพ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงก็โทรฯไปบอกแม่ที่เกาหลีว่า ตนเองใจแตก ถูกคนอื่นข่มขืนจนตั้งท้อง ซึ่งตนเองต้องอุ้มท้องทนอยู่กับพ่อเลี้ยง เพราะไม่รู้จะไปไหน และไม่อยากทิ้งน้อง 2 คนไว้ลำพัง
นางปวีณา เปิดเผยอีกว่า น.ส.เอ. ยังเล่าต่อว่า เมื่อเดือน ม.ค. 61 เพิ่งคลอดลูกออกมาใหม่ ขณะที่แผลคลอดยังไม่ทันหายดี พ่อเลี้ยงก็จะข่มขืนอีก เมื่อไม่ยอม พ่อเลี้ยงก็จะเดินไปเตะน้องทั้ง 2 คนให้ดู น้องร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด จนต้องยอมให้อีก ทุกวันนี้พ่อเลี้ยงจะเสพยาหนักขึ้น มักมีอารมณ์ฉุนเฉียว เมื่อกลับมาก็จะดุด่าทุบตีน้องของหนูเป็นประจำ และจะข่มขืนบ่อยขึ้น แทบทนไม่ไหว ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อรู้ข่าวว่า มูลนิธิปวีณาให้การช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ถูกข่มขืนและถูกกระทำทารุณ จึงได้แอบติดต่อมา ขอให้พ้นจากขุมนรกนี้ด้วย
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ได้ประสาน พ.ต.อ.สุระพรรณ นาทวรทัต รอง ผบก.จ.สมุทรสาคร และ นางสาวกนิษฐา บุญยัง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสาคร ก่อนส่งเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก จ.สมุทรสาคร และตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร
เมื่อไปถึงบ้านของพ่อเลี้ยง พบนางสาวเอ กำลังนั่งเลี้ยงลูกและน้องๆ อยู่อีก 2 คน แต่ไม่พบตัวพ่อเลี้ยง เมื่อน.ส.เอรู้ว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก จ.สมุทรสาคร และตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร มาช่วย ก็ดีใจเป็นอย่างมาก
เจ้าหน้าที่จึงอาศัย พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กเข้าช่วยเหลือนางสาวเอ และลูกน้อยออกมาจากบ้าน ก่อนพาไป สภ.เมืองสมุทรสาคร แจ้งความดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยง ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนางสาวเอ และลูกไปตรวจร่างกาย เพื่อเก็บหลักฐานร่องรอยการถูกทำร้าย และดีเอ็นเอลูกน้อย เพื่อตรวจยืนยันความเป็นพ่อลูกกับพ่อเลี้ยง พร้อมนัดสอบสหวิชาชีพ รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติออกหมายจับพ่อเลี้ยงมาดำเนินคดีต่อไป
ความคืบหน้าล่าสุด นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้จับตัวพ่อเลี้ยงคนนี้ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 61 ที่ผ่านมา และส่งฟ้องศาลดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่พ่อเลี้ยงยังปฏิเสธ ไม่ได้ข่มขืน ส่วนน.ส.เอ กับลูกน้อยวัย 3 เดือน อยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กฯ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
ส่วนแม่ของนางสาวเอ ทางมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานให้กลับมาที่บ้านแล้ว และได้รับตัวลูกสาว อายุ 10 ขวบ และอายุ 4 ขวบ ไปฝากให้ญาติเลี้ยงแล้ว ส่วนนางสาวเอ ซึ่งต้องการเรียนต่อ ทางบ้านพักเด็ก จ.สมุทรสาคร ก็จะหาที่เรียนให้
สถิติเกี่ยวกับปัญหาครอบครัวปี 2560