กระทรวงแรงงานตั้งศูนย์11 ศูนย์รองรับแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบ ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ย้ำนายจ้างยื่นแจ้งการทำงานของแรงงานต่างด้าวที่ตั้งแต่ 24 ก.ค.ถึง 7 ส.ค.นี้ พร้อมสั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐแสวงหาผลประโยชน์เด็ดขาด
กระทรวงแรงงานเปิดศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าวในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้ว 11 ศูนย์ ได้แก่ 1) กระทรวงแรงงาน ถ.มิตรไมตรี เขตดินแดง 2) IT Square หลักสี่พลาซ่า ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ 3) สถานีขนส่งสายใต้ ชั้น 2 ถ.บรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน 4) ธัญญาปาร์ค ถ.ศรีนครินทร์ เขตสวนหลวง 5) ศูนย์กีฬาบางขุนเทียนเคหะชุมชนธนบุรี 3 ถ.พระราม 2 ซ.62 เขตบางขุนเทียน
6) สวนกีฬารามอินทรา ถ.รามอินทรา ซ.5 เขตบางเขน 7) กรมยุทธศึกษาทหารบก ใกล้สถานีรถไฟสามเสน ถ.นครชัยศรี เขตดุสิต 8) อาคารสโมสรวังนันทอุทยาน (กองทัพเรือ) ถ.อิสรภาพ เขตบางกอกน้อย 9) หอประชุมมหาวิทยาลัยกรุงเทพ-สุวรรณภูมิ ถ.ประชาพัฒนา เขตลาดกระบัง
10) สำเพ็ง 2 ปาร์ค (เฟส 3) ถนนกัลปพฤกษ์ เขตบางแค 11) กองความปลอดภัยแรงงาน ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน ตรงข้าม สน.ตลิ่งชัน ซึ่งแต่ละศูนย์จะมีเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ ๆ ละ 30 คน พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ซึ่งศูนย์ทั้งหมด 11 ศูนย์ คาดว่าจะสามารถรองรับผู้มายื่นเอกสารได้วันละ 2,000 คนต่อวันต่อศูนย์
ขณะที่ศูนย์รับแจ้งในต่างจังหวัดมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเป็นคนดูแลในการจัดตั้งศูนย์ในพื้นที่ของตนแล้ว ซึ่งจากรายงานพบว่าทุกจังหวัดมีความพร้อมก่อนจะเปิดรับเเจ้งการทำงานของคนต่างด้าว ในวันที่ 24 ก.ค.-7 ส.ค.นี้แน่นอน โดยคาดภายใน 15 วัน ศูนย์รับแจ้งทั่วประเทศ ที่มีกว่า 100 ศูนย์ จะสามารถรับแจ้งการทำงานของแรงงานต่างด้าวทั่วประเทศ ได้ประมาณ 1.5 ล้านคน
สำหรับเอกสารที่นายจ้างต้องเตรียมนำมาในวันยื่นคือ ใบคำขอที่กรอกรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว รูปถ่ายของแรงงานขนาด 2 นิ้ว จำนวน 3 ใบ สำเนาบัตรประชาชนของนายจ้างหรือสำเนารับรองการจัดบริษัท โดยนายจ้างจะต้องเป็นผู้มายื่นให้ลูกจ้างเอง โดยสามารถมายื่นได้ 2 ช่องทางคือที่ศูนย์รับแจ้งทั่วประเทศ หรือยื่นผ่านระบบออนไลน์ www.doe.go.th หลังยื่นเสร็จภายใน 30 วัน เจ้าหน้าที่จะนัดหมายนายจ้างและลูกจ้าง มาพิสูจน์ความเป็นนายจ้างลูกจ้างอีกครั้ง เพื่อออกเอกสารรับรองบุคคล(CI) เพื่อสู่ขั้นตอนการพิสูจน์สัญชาติ ประทับตราวีซ่า และออกใบอนุญาตทำงาน(Work permit)ให้
ทั้งนี้จากการเจราจากับกระทรวงแรงงานของประเทศกัมพูชา พบว่ากัมพูชาจะส่งทีมเจ้าหน้าที่พิสูจน์สัญชาติของแรงงานกัมพูชาในประเทศไทย ภายในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม จำนวน 20 ทีม ทีมละ7คน ซึ่งแต่ละทีมจะสามารถพิสูจน์สัญชาติได้ประมาณ150 คน โดยศูนย์แรกจะเริ่มเปิดที่จังหวัดระยองก่อน เนื่องจากมีแรงงานกัมพูชาทำงานในภาคประมงในจังหวัดนี้จำนวนมาก ซึ่งหลังจากปิดรับแจ้งวันที่7สิงหาคมนี้ ก็จะมีความชัดเจนของจำนวนแรงงานต่างด้าวในประทศไทย จากรวบรวมส่งยอดให้ประเทศต้นทางทันที เพื่อให้แต่ละประเทศนำไปพิจารณาในการเปิดศูนย์พิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวต่อไป
อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งนายจ้าง ผู้ประกอบการ ที่มีแรงงานต่างด้าวและต้องการใช้แรงงานต่างด้าวควรดำเนินการให้ถูกต้องตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติโดยย้ำเจ้าหน้าที่รัฐต้องอำนวยความสะดวกให้นายจ้างและแรงงานที่เข้ามาใช้บริการเป็นอย่างดี การแสวงหาผลประโยชน์จะต้องไม่มีเด็ดขาด
