หากใครจำกันได้เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายสมยศ ถาวร หนุ่มใหญ่วัย 42 ปี จัดหาชุดแต่งงานและถ่ายภาพพรีเวดดิ้งให้ น.ส.สุรัตน์ ถาวร ภรรยาสาวชาวม้งสุดที่รักใน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายจนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่ว เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา น.ส.สุรัตน์ จากไปอย่างสงบที่โรงพยาบาลเขาค้อ นายสมยศ สามีไปทำงานที่ประเทศโปแลนด์ เมื่อรู้ข่าวรีบบินกลับมางานศพภรรยาโดยถึงงานศพภรรยา เจ้าตัวถึงกับเสียใจจนอ่อนแรง
นายสมยศ ถาวร ร้องไห้เมื่อเจอศพของ น.ส.สุรัตน์ ถาวร ภรรยาสาวท่ามกลางบรรยากาศอันโศกเศร้า แข้งขาอ่อนแรงจนฐาติ ๆ ต้องเข้าไปปลอบใจ ซึ่ง นายสมยศ ขอลาหยุดทำงานที่ประเทศโปแลนด์ เป็นเวลา 9 วัน ตั้งแต่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา และบินกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อกลางดึกวันที่ 20 มีนาคม เหมาแท็กซี่จากกรุงเทพฯ มาที่เขาค้อเพื่ออำลาภรรยาสุดที่รักเป็นครั้งสุดท้าย
สำหรับการจัดงานศพของ น.ส.สุรัตน์ จัดตามประเพณีชาวเขาเผ่าม้งแต่สามีร้องขอทางพ่อแม่และญาติ ๆ ของภรรยาว่าขอจัดงานศพแบบพุทธศาสนา จะนิมนต์พระมาสวดพระอภิธรรมศพในคืนนี้ เพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้ จากนั้นในเช้าวันที่ 21 มี.ค. ก็จะประกอบพิธีฝังศพตามประเพณีของชาวชนเผ่าม้งต่อไป
นายสมยศ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากทำความฝันให้ภรรยาด้วยการสวมชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวถ่ายภาพพรีเวดดิ้งเมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ก็ดูแลระยะหนึ่งก่อนเดินทางไปทำงานที่โปแลนด์เมื่อวันที่ 1 มีนาคม และพยายามวิดีโอคอลเพื่อบอกรักภรรยาทุกวัน และให้กำลังใจรอวันที่จะกลับมาอยู่ด้วยกันอีก ตอนที่อยู่โปแลนด์แทบจะนอนไม่หลับเพราะห่วงภรรยามาก ๆ จนเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ภรรยาอาการทรุดหนัก พ่อ-แม่รีบนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเขาค้อ จากภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ชีพจรเต้นช้าและเบาลงเรื่อย ๆ คิดว่าภรรยาน่าจะรอให้ตนเองดูใจจึงขอให้แม่ใช้วิดีโอคอลบอกกับภรรยาว่าไม่ต้องกังวลอะไร และจะรักตลอดไป พร้อมขอโทษที่ไม่สามารถกลับมาอยู่เคียงข้างในวาระสุดท้าย
หลังจากกล่าวคำอำลาแล้วภรรยาน้ำตาไหลออกมาคล้ายกับว่ารับรู้แล้วก่อนสิ้นลมในเวลาต่อมา เมื่อรู้ข่าวก็แทบจะทำใจไม่ได้ คอยปลอบใจตัวเองว่า “เธอเพียงแค่นอนหลับเท่านั้น อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ตื่นขึ้นมาแล้ว” ทั้งนี้ นายสมยศ พร้อมกล่าวขอบคุณเพจแหม่มโพธิ์ดำ และพี่เอก ช่างภาพพรีเวดดิ้ง และทุกคนที่ส่งกำลังใจให้ตัวเองและภรรยาสู้กับทุกอุปสรรค