คดีทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ที่ถูกยักย้ายถ่ายเทมานานนับ 10 ปี มูลค่าความเสียหายนับ 100 ล้านบาท วันนี้(10 เม.ย) นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และพยาน 2 ราย พร้อมด้วยเอกสาร คอมพิวเตอร์ของนางรจนา สินที อดีตข้าราชการระดับซี 8 ที่ถูกไล่ออกจากราชการแล้ว ได้มอบหลักฐานให้กับเลขาธิการคณะกรรมการป้องการและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท. เพื่อส่ต่อให้กับคณะกรรมการไตร่สวนข้อเท็จจริง ต่อไป
โดยนายอรรถพล เผยความคืบหน้าของคดีว่า ใกล้จะสรุปผลแล้ว โดยพบว่าตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2548 – พฤศจิกายน 2560 มีการโอนเงินกองทุนเสมาพัฒนา กว่า 1,049 บัญชี เป็นจำนวนเงินโดยประมาณ 230 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีการโอนเข้าบัญชีที่ไม่ถูกต้องถึง 471 บัญชี ตัวเลขความเสียหายกว่า 96 ล้านบาท รวมถึงมีข้าราชการที่เกี่ยวข้องทั้งที่เป็นข้าราชการของกระทรวงศึกษาธิการ ข้าราชการกระทรวงอื่น ทหารและตำรวจ ซึ่งขณะนี้สืบสวนรายชื่อบัญชีที่มีการรับโอนเงินกองทุนเสมาฯ ได้หมดแล้ว โดยจะมีการแจ้งความเพิ่มเติมผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งรายเก่าและรายใหม่รวมทั้งสิ้น 44 ราย ซึ่งเป็นข้าราชการของกระทรวงศึกษาธิการที่มีชื่ออยู่ในบัญชี ว่าเป็นผู้รับเงินจำนวน 2
ราย รวมทั้งข้าราชการกระทรวงอื่นด้วย
ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่าเรื่องนี้มีผู้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต 4 กลุ่ม คือ นางรจนา และเครือญาติซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ กลุ่มเพื่อน ร่วมรุ่นทั้งปริญญาตรีและโท โดยบางรายมาให้ข้อมูลต่อกรรมการและรับสารภาพแล้ว องค์กรการกุศลซึ่งเป็นมูลนิธิที่นางรจนา เข้าไปร่วมเป็นกรรมการ โดยนางรจนาโอนเงินเข้าบัญชีประธานมูลนิธิถึง 7 ครั้งเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท และกลุ่มนักเรียนทุนเสมาฯ และอื่นๆ ที่มีความสนิทสนมเรียกนางรจนาว่าครู ซึ่งมีเด็กมาให้ปากคำว่านางรจนาให้เปิดบัญชีและเก็บบัตร ATM ไว้
โดยทั้ง 4 กลุ่ม มีผู้รับโอน 52 บัญชี รู้ตัวเจ้าของบัญชีแล้ว 34 บัญชี ส่วนอีก 18 บัญชียังไม่ทราบเจ้าของ จึงส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รับไปตรวจสอบต่อไป