เปิดใจสามีถ่ายพรีเวดดิ้ง ตามฝันให้ภรรยาป่วยเป็นโรคมะเร็งสมองขั้นสุดท้าย
วันที่ 8 ม.ค.2561 จากกรณีมีผู้ใช้เฟสบุค Akestory Storylovewedding ได้โพสต์ภาพการถ่ายเวดดิ้งให้กับหนุ่มไทยกับภรรยาที่เป็นชาวม้ง ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งในสมองระยะสุดท้าย ที่บ้านเข็กน้อย ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ พร้อมทั้งได้บรรยายความรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของความรักที่ฝ่ายชายที่ต้องการทำตามความฝันของภรรยาที่ใฝ่ฝันอยากจะสวมชุดเจ้าสาว ได้เห็นรอยยิ้มทั้งคราบน้ำตาของฝ่ายหญิง ยิ่งทำให้การบันทึกภาพเป็นไปด้วยบรรยากาศที่ช่างภาพคนดังกล่าว
จากนั้นภาพดังกล่าวถูกแชร์ต่อไปจำนวนมาก และชาวโซเชียลต่างก็ให้กำลังใจแก่หนุ่มสาวทั้งสองได้ฝันฝ่าวิกฤติชีวิตในครั้งนี้ไปให้ได้ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว พบนายสมยศ ถาวร อายุ 42 ปี ซึ่งกำลังดูแลภรรยาคือนางสุรัตน์ ถาวร หรือน้องหนิง อายุ 33 ปี อย่างใกล้ชิด
โดยนายสมยศ ถาวร ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเป็นชาวจังหวัดชลบุรี ได้พบรักกับน้องหนิงครั้งแรกที่กรุงเทพฯ โดยในขณะนั้นเป็นเชฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยน้องหนิงเป็นผู้ช่วยกุ๊กจึงได้รู้จักจนเกิดเป็นความรัก ต่อมาตนได้มีโอกาสไปทำงานเป็นเชฟร้านอาหารที่ประเทศโปแลนด์ จึงได้ให้แฟนกลับมารออยู่ที่บ้าน และสัญญาว่าขอเวลา 6 เดือนจะเก็บเงินกลับมาแต่งงาน ซึ่งตนก็ทำตามสัญญา แต่การแต่งงานครั้งนั้นเป็นแบบประเพณีชาวม้ง หลังจากแต่งงานกันแล้วก็ได้พาภรรยาไปทำงานที่ประเทศโปแลนด์ด้วย ต่อมาภรรยามีอาการมองภาพซ้อนและหยิบจับสิ่งของก็ไม่ได้ จึงพาไปพบแพทย์ปรากฎว่าเป็นมะเร็งที่สมอง และมีน้ำในสมองจึงต้องผ่าตัด แต่ก็ขอร้องให้แพทย์ช่วยปิดบัง ซึ่งก็ได้โกหกและปลอบใจภรรยามาตลอดว่าเป็นเพียงน้ำในสมองจึงต้องเจาะออก ใช้เวลาเพียง 1-2 ปีก็หาย จากนั้นภรรยาต้องพบแพทย์อย่างต่อเนื่องและต้องทำเคมีบำบัด แต่อาการก็ยังทรุดลงเรื่อย ๆ ตนเองจึงได้ให้น้องสาวภรรยาเดินทางไปช่วยดูแล เพราะตนเองก็ต้องทำงาน แต่อาการก็ยังทรุดลงเรื่อย ๆ และน่าเป็นห่วงอย่างมาก ตนเองจึงพาภรรยาเดินทางกลับมาเมืองไทยเพื่อให้เจอหน้าพ่อแม่ และเข้าทำการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ซึ่งในระหว่างที่รักษาตัวอยู่ที่ต่างประเทศนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เงินที่ตนและภรรยาได้ช่วยกันเก็บออมไว้แทบจะไม่เหลือเลย
กระทั่งช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ภรรยามีอาการทรุดหนักตนจึงรีบเดินทางกลับมาดูแล พร้อมทั้งนั่งทบทวนดูว่ามีอะไรบ้างที่ภรรยาอยากได้ อยากทำ แต่ยังไม่ได้ทำนั่นคือความใฝ่ฝันที่จะแต่งชุดเจ้าสาวและตนก็ตัดสินใจแล้วว่า จะบอกความจริงกับภรรยาเสียทีซึ่งหลังจากถ่ายพรีเวดดิ้งเสร็จ ตนจึงรวบรวมสติ รวบรวมความกล้า จากนั้นได้ค่อย ๆ เอ่ยบอกความจริงทั้งน้ำตา เมื่อน้องเขารับรู้เราทั้งสองคนต่างก็สวมกอดกันร้องให้อยู่นาน ซึ่งบรรดาญาติ ๆ ที่มาดูการถ่ายรูปรวมทั้งช่างภาพต่างก็ร้องไห้น้ำตาไหลไปด้วย จากนั้นตนก็ได้ร้องเพลง “ขายแรงแต่งงาน” ของไมค์ ภิรมย์พร ให้กับภรรยาฟังข้าง ๆ หู ซึ่งเพลงนี้ผมจะต้องให้ฟังทุกคืน เพราะตรงกับชีวิตตนเองและได้เพลงนี้เป็นกำลังใจจนตนเองเก็บเงินและแต่งงานกับภรรยาได้ ซึ่งในช่วงที่ป่วยและอยู่ห่างกันตนเองจะโทรมาคุยพร้อมกับร้องเพลงนี้ให้ฟังทุกคืน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมจึงรักและดูแลภรรยาดีมากขนาดนี้ นายสมยศ ให้คำตอบว่าที่ตนรักมากขนาดนี้เพราะว่าที่ผ่านมาภรรยาให้เกียรติตนเองเป็นอย่างมาก ไม่เคยบ่น ไม่เคยว่า ไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวเลย แม้กระทั่งกระเป๋าเงินหรือโทรศัพท์ ภรรยาไม่เคยแตะต้องของตนเองเลย และที่สำคัญภรรยาจะเข้ามากราบเท้าของตนก่อนนอนไม่เคยขาดเลยแม้แต่คืนเดียว