เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย หลังจากเฟซบุ๊กชื่อ “น้องตาล จิบิโก๊ะ” โพสต์ภาพบอกว่า หมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ลืมผ้าก๊อซไว้ในช่องคลอดเป็นเวลากว่า 2 เดือน โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมากทั้ง ๆ ที่ปวดแสบเจ็บแผลเย็บจนเดินไม่ได้มานาน ซึ่งหลังโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวก็มีผู้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ สอบถาม พร้อมทั้งให้กำลังใจ และแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ล่าสุด วันนี้ผู้สื่อข่าวไปสอบถามความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
วันนี้ (30 ส.ค.61) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักใกล้วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร บ.ท่าเรือ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยหญิงรายนี้เป็นคุณแม่วัยใสชื่อ “น้องตาล” อายุเพียง 18 ปีเท่านั้น เธอเล่าว่า คลอดลูกที่โรงพยาบาลดังกล่าวเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยเลือกคลอดเองแทนการผ่าตัดซึ่งดำเนินการตามปกติและหมอได้เย็บแผลหลังคลอด ก่อนให้พักฟื้น 3 วันที่โรงพยาบาล ก่อนอนุญาตให้ตนเองกับลูกกลับบ้าน โดยหมอได้นัดอีกครั้งประมาณ 7 วัน ซึ่งช่วงที่อยู่บ้านมีอาการปวดแผลบ่อยแต่ไม่หนักมาก ก็ไม่เอะใจนึกว่าเป็นอาการปวดหลังคลอดเพราะเป็นท้องแรก ครบกำหนดนัด “น้องตาล” ก็บอกว่ามีอาการปวดบวมแต่หมอไม่ได้ตรวจภายในและนัดให้มาพบตามปกติ ระหว่างนั้นก็จะปวด ๆ หาย ๆ ครบกำหนดก็มาตามนัดหมอกลับไม่ได้ตรวจภายใน ก่อนให้ยากลับไปรับประทานนานกว่า 2 เดือน จนถึง 28 ส.ค. ก็ปวดทั้งวันจึงไปเข้าห้องน้ำพบว่าบวมแล้วฝืนออกมานั่งเลี้ยงลูกแต่ผ้าก็อซไหลออกจากช่องคลอดเอง มีสีดำและกลิ่นเหม็น จึงเก็บตัวอย่างผ้าก๊อซไปพบหมอที่โรงพยาบาลเดิมเพื่อตรวจอาการอีกครั้ง ซึ่งหมอได้ตรวจภายในและบอกว่าไม่มีอะไรตกค้างภายใน พร้อมให้ยาฆ่าเชื้อมากิน
“น้องตาล” กล่าวว่า ช่วงแรก ๆ ที่ไปพบหมอหลังผ้าก็อซหลุด ก็ดูเหมือนว่าทางโรงพยาบาลพยายามปัดความรับผิดชอบ ตนเองจึงนำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ลงโซเชี่ยลมีเดียเพื่อให้เป็นอุทาหรณ์ เตือนผู้อื่นให้ระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับตน พร้อมทั้งเรียกร้องให้บุคลากรทางการแพทย์เพิ่มความระมัดระวัง และให้แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งเข้ามาดูแลสภาพร่างกายและจิตใจของตนด้วย
หลังโพสต์ข้อความไปเมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) “น้องตาล” ก็ไปแจ้งลงบันทึกประจำวันกับสถานีตำรวจในท้องที่พร้อมหลักฐานคือผ้าก๊อซ ก่อนเดินทางขอพบกับผู้บริหารโรงพยาบาลดังกล่าว แต่ไม่พบตัวผู้บริหาร พบเพียงตัวแทน ซึ่งได้ให้เขียนหนังสือร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษรตามลำดับขั้นตอน และรับปากจะดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนอย่างเป็นธรรม ก่อนจะแจ้งผลการดำเนินการให้ทราบในภายหลัง ซึ่งคาดว่าอาจจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงจะทราบผล แต่หลังจากที่พูดคุยกับทางโรงพยาบาลล่าสุด คาดว่าน่าจะทราบผลไม่เกินวันที่ 6 ก.ย.61 นี้ ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลแจ้งว่าจะเข้ามาเยี่ยมที่บ้านในวันนี้ (30 ส.ค.61) แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องเวลา
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตอนแรกผู้บริหารโรงพยาบาลดังกล่าวจะแถลงข่าวเปิดเผยข้อเท็จจริงกับสื่อมวลชน ในเวลา 14.00 น. แต่ก็มีการแจ้งยกเลิกเพราะผู้บริหารติดภารกิจประชุมเร่งด่วน จึงให้ นพ.จิรพันธ์ เต้พันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้แถลงข่าว โดย คุณหมอจิรพันธ์ บอกว่า ตอนนี้ทางสำนักงานสาธารณสุข จ.ภูเก็ต และโรงพยาบาลดังกล่าว พร้อมทั้งคณะผู้บริหาร ได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งส่งตัวแทนฯ เยี่ยมผู้ป่วยและญาติที่บ้าน พร้อมมอบกระเช้าเยี่ยมเพื่อกล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการเรื่องขอรับเงินชดเชยตามมาตรา 41 ต่อไป
ส่วนมาตรการเพื่อป้องกันความผิดพลาดในอนาคต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้สั่งการให้หน่วยบริการสาธารณสุขทุกแห่งบริการอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น กรณีคลอดบุตรให้มีการตรวจภายในหลังการเย็บแผลหลังคลอดอย่างถี่ถ้วน การลดระยะเวลานัดตรวจผู้ป่วยหลังคลอดจาก 45 วันเหลือ 30 วัน เป็นต้น รวมทั้งหากเกิดความผิดพลาดในการให้บริการในทุกกรณี จะต้องมีการเยี่ยวยาผู้ป่วยหรือญาติอย่างเร่งด่วน