ญาติเหยื่อมะเร็งนำเถ้ากระดูกไปลอยอังคาร เกิดเรือล่มกลางทะเลสาบสงขลาลอยคอกว่าครึ่งชั่วโมง โดยไร้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ เตือนเป็นกรณีตัวอย่างอย่าเกิดขึ้นกับใครอีก
4 มิ.ย.60 เรือหางยาวชาวประมงกำลังลำเลียงผู้ประสบเหตุเรือล่มในทะเลสาบพัทลุงสงขลา เพื่อนำขึ้นฝั่งบริเวณหาดแสนสุขลำปำ ซึ่งมีรถพยาบาลจากหน่วยกู้ภัยพัทลุงการกุศลมูลนิธิ รอรับการช่วยอยู่แล้ว จากการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มในครั้งนี้มีจำนวน 6 ราย ผู้หญิง 4 ราย ผู้ชายอีก 2 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ว่ายน้ำไม่เป็น และไม่ได้สวมชูชีพอีกด้วย อย่างไรก็ตาม มีผู้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย คือ นางอุบล สุขะเจริญศิริ อายุ 53 ปี ได้รับบาดเจ็บที่เท้าจากเรือหนีบในขณะทำการช่วยเหลือ ส่วน นางปานดวงใจ วรรธนะประทีป อายุ 52 ปี เกิดอาการสำลักน้ำ เจ้าหน้าที่ต้องนำส่งโรงพยาบาลพัทลุงเป็นการเร่งด่วน
นอกจากนั้นยังได้รับแจ้งว่ามีคนขับเรือลำดังกล่าวลอยคออยู่ในที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงออกไปทำการช่วยเหลือพบ นายสุนิตย์ จุลเอียด อายุ 59 ปี เกาะเรือลอยคออยู่กลางทะเล ส่วนเครื่องฉุดเรือหลุดออกจากกันจมน้ำหายไป จึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ดำน้ำเพื่อลงค้นหาเครื่องฉุดเรือ เนื่องจากระดับน้ำลึกประมาณ 4 – 5 เมตร ประกอบกับคลื่นลมแรง และห่างจากฝั่งประมาณ 3 กิโลเมตร
นายธรรมรง โสฬส อายุ 59 ปี ข้าราชการครูบำนาญ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองพร้อมญาติ ๆ นำเถ้ากระดูกของภรรยาเพื่อออกไปลอยอังคารในทะเลสาบสงขลา โดยเช่าเหมาเรือหางยาวของชาวประมงจำนวน 2 ลำ ลำละ 6 คน ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร เมื่อทำพิธีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระหว่างเดินทางกลับเข้าฝั่ง เรือลำที่สองถูกคลื่นซัดจนคว่ำทำให้คนที่นั่งมาลอยคอกันอย่างโกลาหล ตนเองตะโกนให้ทุกคนพยายามเกาะเรือไว้ ด้วยความตกใจจึงแจ้ง 199 โดยไม่ทราบว่าเป็นหมายเลขที่ไหน ซึ่งทาง 199 รับว่าจะแจ้งทางกู้ภัยให้ ในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้มีชาวประมงออกไปและช่วยเหลือนำผู้ประสบภัยขึ้นฝั่งซึ่งทาง นายธรรมรง ยังบอกว่าตนเสียใจกับหน่วยงานราชการ ที่อยู่ในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยไม่มีการเตรียมความช่วยเหลือที่ตนรอดมาได้ในครั้งนี้ต้องช่วยเหลือตัวเองอย่างทุลักทุเล ตนขอฝากไว้ให้เป็นอุทาหรณ์เพื่อไม่อยากให้เกิดกับใครอีก