เกิดเหตุไฟลุกไหม้กลางพระอุโบสถ์เก่าแก่อายุนับร้อยปีที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ทำความเสียหายพระประธานและพระพุทธรูปที่อยู่ภายในเสียหายหลายองค์ ตร.เข้าตรวจสอบพร้อมประสานวิทยาการหาสาเหตุอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ด้านชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเหตุอาเพศ
พระสงฆ์สามเณรกำลังยืนดูร่องรอยที่ถูกเพลิงไหม้ในพระอุโบสถเก่าแก่นับร้อยปี ภายในวัดโพธิ์ทอง ม.4 ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี หลังจากเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรศรีมหาโพธิ รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวแต่ทางพระภิกษุสามเณรช่วยกันดับไฟได้แล้ว
จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณกลางพระอุโบสถหน้าพระประธาน ตรงกับจุดที่ฝังลูกนิมิตถูกไฟไหม้เป็นหลุมกว้างกว่า 1 เมตร ลึกราว 20 เซนติเมตร ในจุดดังกล่าวพบอาสนะและเครื่องบูชาแจกันและพระพุทธรูปตกลงมาถูกไฟไหม้ได้รับการเสียหาย รวมทั้งพระประธานซึ่งเป็นพระพุทธชินราช และพระโมคลานะ-พระสารีบุตร และสิ่งของอื่น ๆ ถูกไฟไหม้ลุกลามได้รับความเสียหายทั้งหมด
สอบถาม สามเณรสนธยา จันตรี ซึ่งเป็นผู้มาพบเป็นคนแรก เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ขณะที่กำลังจะมาเปิดพระอุโบสถเพื่อทำความสะอาดก่อนทำวัตรเย็น เมื่อเข้ามาเห็นโคมไฟละลายจากความร้อน มาดูที่อาสนะตรงที่ท่านเจ้าอาวาสนั่งเห็นถูกไฟเผาเป็นวงกว้าง จึงรีบไปแจ้งท่าน พระครูสมุห์อโนทัย อนุภัทรโธ เจ้าอาวาส พร้อมทั้งช่วยกันดับไฟที่ยังครุกรุ่น พร้อมยืนยันว่า หลังทำวัตรเย็นวานนี้ยังไม่มีอะไรผิดสังเกต ตนเองได้ออกเป็นคนสุดท้ายและปิดประตูลั่นกุญแจเรียบร้อย ตลอดทั้งวันไม่มีการเปิดพระอุโบสถแต่อย่างใด จนเย็นวันนี้มาเปิดประตูเพื่อทำความสะอาดก็พบว่าเกิดไฟไหม้แล้ว ซึ่งทั้งพระและเณรในวัดต่างก็แปลกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว
หลังการสอบสวน ร.ต.อ.เชิดศักดิ์ พันธ์พาณิชย์ ร้อยเวรสอบสวน จะได้ประสานตำรวจวิทยาการเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของการเกิดไฟลุกไหม้กลางพระอุโบสถเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไปว่าเกิดจากอะไร โดยที่ชาวบ้านบางรายลือว่า อาจเป็นเรื่องอาเพศที่จู่ ๆ ก็เกิดไฟลุกไหม้กลางพระอุโบสถ และตรงกับจุดที่ได้ทำการผูกพัธสีมาหรือฝังลูกนิมิตเมื่อเกือบ 100 ปี