เร่งล่า! ฆาตกรโหดฆ่าหั่นศพหญิงสาวนิรนาม 14 ชิ้น ยัดศีรษะเหยื่อใส่เป้สะพาย ชิ้นส่วนร่างกายที่เหลือยัดใส่กระสอบปุ๋ย 2 ใบ แต่พบเพียงแค่ 13 ชิ้น ยังเหลือ “ท่อนแขนขวา” ที่หายไป ตำรวจมีนบุรี เร่งตรวจสอบหาเบาะแสผู้ตายเป็นใคร?
จากกรณีกลางดึกคืนที่ผ่านมา ตำรวจนครบาลมีนบุรี พบกระเป๋าต้องสงสัยมีคราบเลือดถูกทิ้งไว้ริมถนนสามวา แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบกระเป๋าเป้สะพายสีดำ ภายในมีถุงพลาสติกสีน้ำเงินห่ออีก 2 ชั้น แล้วพันด้วยผ้าขนหนูไว้อีก เมื่อแกะดูก็ตะลึงเพราะเป็นศีรษะหญิงสาววัยรุ่นผมสีแดง ถูกตัดขาดจากลำตัว คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-5 วัน ห่างออกไปประมาณ 6 เมตร พบกระสอบปุ๋ยเปื้อนเลือดอีก 2 ใบ ในพงหญ้า เปิดออกพบเป็นส่วนลำตัวของผู้เสียชีวิต ก่อนที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช จะเดินทางมาตรวจสอบ
จากการตรวจสอบบริเวณจุดที่เกิดเหตุเป็นทางเปลี่ยว แสงไฟน้อย และอยู่ห่างไกลจากบ้านเรือนประชาชน ประกอบกับข้างทางเต็มไปด้วยป่าหญ้าสูง 2 เมตร คนร้ายจึงได้นำกระเป๋ามาทิ้งไว้ โดยใบแรกอยู่ในดงต้นอ้อ พบชิ้นส่วนของมือ เท้าทั้ง 2 ข้าง แขนท่อนล่างอีก 1 ข้าง เมื่อค้นหาต่อไปพบถุงดำใส่ชิ้นส่วนบริเวณน่องขา 2 ข้าง ต้นแขนติดหัวไหล่ 2 ข้าง รวมทั้งถุงพลาสติกใส่ของเครื่องใช้ส่วนตัวผู้หญิง เสื้อยืดสกรีนลาย “ที่นี่ ชะอำ” ยกทรงสีชมพูจุดดำ และชุดชั้นใน จนกระทั่งเมื่อเวลา 03:50 น. เจ้าหน้าที่จึงยุติการค้นหา เนื่องจากสถานทีเกิดเหตุมืดและเป็นป่าหญ้ารกทึบ
จากการสอบสวนนายรัฐศาสตร์ คมขำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่มไทร ผู้พบกระเป๋ายัดศพเป็นคนแรก ให้การว่า ตนใช้ถนนเส้นนี้เป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุเห็นกระเป๋าดังกล่าววางอยู่ที่เดิมมาประมาณ 3-4 วันแล้ว กระทั่งล่าสุดที่ไปพบได้กลิ่นเหม็น จึงจอดรถลงไปดู พบเป็นร่างของมนุษย์ถูกฆ่าหั่นศพ ก่อนจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดังกล่าว
ทั้งนี้ จากหลักฐานที่พบระบุได้ว่าเป็นเพศหญิง ยังไม่ทราบชื่อ-นามสกุล อายุ 30-35 ปี ถูกของมีคมหั่นแยกส่วนจำนวน 14 ชิ้น แต่ขณะนี้พบเพียง 13 ชิ้น ยังเหลืออีก 1 ชิ้นคือท่อนแขนขวา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บรวบรวมวัตถุพยานทั้งหมด เพื่อนำไปเปรียบเทียบอัตลักษณ์บุคคล รวมทั้งให้ตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบว่ามีใครแจ้งบุคคลสูญหายหรือไม่ เพื่อจะได้ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร โดยคาดว่าในตอนเช้า เจ้าหน้าจะออกค้นหาใหม่อีกครั้ง พร้อมเร่งหาเบาะแสล่าคนร้ายฆ่าโหดหั่นศพหญิงสาวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
