ภาพในคลิปรถเก๋งสีขาวขับอยู่หน้ารถพยาบาลที่กำลังจะนำคนไข้ที่ป่วยจากอุบัติเหตุ ที่่สาหัสและจำเป็นต้องส่งตัวต่อ จากโรงพยาบาลแก่งคอยไปที่โรงพยาบาลสระบุรี โดยคนไข้ใส่ท่อช่วยหายใจและเสี่ยงต่อหัวใจหยุดเต้น ขณะที่รถพยาบาลได้เปิดสัญญาณไซเรนเพื่อขอทางและบีบแตร แต่ไม่เป็นผล เพราะรถเก๋งข้างหน้าไม่หลีกทางให้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้(19 เม.ย.) คนไข้ดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้ว
ทั้งนี้ ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ พี่สาวผู้เสียชีวิต คือ นางสาวสมร วงเวียน เล่าให้ฟังว่า น้องชายคือ นายจตุรงค์ ได้ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ไปชนกับรถกระบะทำให้บาดเจ็บสาหัส รวมถึงเพื่อนที่ซ้อนท้าย ซึ่งขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลจังหวัดสระบุรี และจากภาพที่เห็นในคลิปวันที่ส่งตัวน้องชายไปรักษาต่อ โดยรถเก๋งขับด้านหน้าและไม่ยอมเปิดทางให้ ทำให้ ยังรู้สึกติดใจกับเรื่องนี้ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะตนเองและครอบครัวการศึกษาไม่สูง และฐานะค่อนข้างยากจน แต่เมื่อคิดย้อนถึงวันนั้น หากรถส่งตัวไปถึงโรงพยาบาลได้เร็วกว่านี้ น้องชายตนเองอาจไม่เสียชีวิตก็ได้
ด้านนายแพทย์ประสิทธิ์ชัย มั่นจิตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแก่งคอย เผยถึงอาการนายจตุรงค์ วันที่รับตัวว่า ได้ให้สายน้ำเกลือและสายช่วยหายใจไปสามเส้น ก่อนส่งต่อไปโรงพยาบาลสระบุรี ระหว่างทางขนส่งผู้ป่วย มีการเปิดไซเลน เพื่อขอให้รถคันอื่นช่วยเปิดทาง แต่อาจล่าช้า 1- 2 นาที ประกอบกับผู้ป่วยมีอาการหนักอยู่แล้ว และเสียชีวิตในที่สุด
ขณะที่ พล.ต.ต. ชัยพร พานิชอัตรา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยกับทางทีมข่าวว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้หากทางญาติผู้เสียชีวิตติดใจการเสียชีวิต ที่อาจจะมีปัจจัยหนึ่งมาจากรถเก๋งขวางหน้า ก็สามารถแจ้งความ
ดำเนินคดีกับคู่กรณี(รถเก๋ง)ได้ ในทางอาญา เพราะเป็นเหตุทำให้ประมาทให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หากมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้
Cr.Itthikorn Butsara