“เสก โลโซ” รายงานตัวกับ คุมประพฤติเมืองคอน เพื่อสอบสวนประวัติ เจ้าตัว ระบุ ให้อยู่นอกคุกจะมีประโยชน์มากกว่าในคุก ลั่นใครจะร้องเพลง “ใจสั่งมา” ให้คนฟัง
นายเสกสรร ศุขพิมาย หรือ “เสก โลโซ” ได้เดินทางมาพร้อมกับ “โจ นากา” พี่ชาย และว่าที่ร้อยตรีมงคลวิจิตร ธนะโสภณ ทนายความส่วนตัว โดยเสกฯ มีท่าทางที่อารมณ์ดียิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งการเดินทางมาที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันนี้เพื่อสืบเสาะกรณีที่เสกฯ ยิงปืนขึ้นฟ้าที่วัดเขาขุนพนม อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อคืนวันที่29 ธันวาคม 2560 ก่อนถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ ยิงปืนขึ้นฟ้า ,พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และมีอาวุธปืนไว้ในพกพา
โดยเสกฯ ได้เข้าไปซักประวัตินานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์ ว่า การเดินทางมาวันนี้เป็นการมาสืบเสาะประวัติต่างๆ ในวันเกิดเหตุ ซึ่งก็ได้ชี้แจงไปว่า ได้ทำอะไรไปบ้าง ส่วนเรื่องที่ยิงปืนในคืนนั้น เพราะแก้บนต่อพระเจ้าตากสิน เนื่องจากได้บนบานขอลูกชายเอาไว้กับพระเจ้าตากสิน ซึ่งคิดว่าไม่ได้ทำในสิ่งที่ผิดพลาดหรือร้ายแรง “แต่เมื่อสังคมมองว่ามันผิด ตนก็เป็นลูกผู้ชายพอในการมาทำให้ถูกต้องตามสังคมตองการ เมื่อเค้าถามว่าการยิงไม่กลัวจะไปโดนคนเข้าหรือ ตนก็บอกว่าตนยิงในเวลากลางคืน และที่เขาขุนพนมก็เป็นภูเขาเราก็ยิงไปทางเขา และตนก็ไปที่วัดบ่อย เรื่องที่จะเป็นอันตราย คนก็ไม่มี จึงไม่น่ามีอันตราย นอกจากนั้นตนก็ได้นำใบประกาศเกียรติคุณที่เคยไปทำการกุศลต่างๆ มาให้เจ้าหน้าที่ดูว่าได้ทำไว้มากมาย”
นอกจากนี้ เสกฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนไม่ได้จะเอาความดีมาลบล้างความผิดนะ เรื่องของความผิดที่เราทำก็ว่าไปตามศาลตัดสิน ส่วนสิ่งที่เราทำดีก็เอามาให้เค้าดูว่าเราเองก็ไม่ใช่เด็กๆ เราก็ดูแลลูกๆ4คนส่งเรียนถึงต่างประเทศ คนที่อยู่เมืองไทยก็เรียน โรงเรียนดีๆตนมีแม่เลี้ยงดูแม่ส่งเสียแม่ทุกเดือน มีบริษัทถึง8บริษัทมีพนักงานที่ต้องดูแล ซึ่งเราเองก็ไม่ใช่เด็กๆ ตนได้เอาสิ่งต่างๆ มาให้เค้าดูเพื่อพิจารณา เพื่อให้ศาลได้พิจารณาตัดสินในวันที่ 15 มีนาคม นี้ ส่วนเรื่องคดีไม่หนักใจ เพราะคิดว่าการให้เข้าไปอยู่ในคุก กับการให้อยู่นอกคุกน่าจะมีประโยชน์มากกว่า คุกเมืองไทยเองก็เต็มแล้วแหละ เขาคงไม่เอาตนไปติดคุกหรอก ให้ติดคุกเพื่ออะไร แล้วใครจะร้องเพลง “ใจสั่งมา ,ซมซาน หรือเพลงแม่” ให้พวกคุณฟัง (พร้อมหัวเราะ) เรื่องแค่ยิงปืนแก้บน คดีฆ่าคนตายเขายังประกันตัวได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องให้ประชาชนตัดสินด้วยว่าที่ตนทำไปร้ายแรงมากไหม ที่สำคัญมาเล่นคอนเสิร์ตที่วัดเขาขุนพนมนั้น ไปเล่นให้ฟรี ไม่ได้เอาเงิน เพราะเคารพพระเจ้าตาก และรักพี่น้องชาวนครฯ ตนมานครหลายครั้งแล้ว มีเมียเป็นคนนคร 2 คนนะจะบอกให้ หากไม่รักจริงก็คงไม่มา แล้วมาก็มาฟรี พอยิงแก้บนแล้วก็ไม่ได้หนีไปไหน เพราะเราคิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องผิดร้ายแรง จึงอยากจะชี้แจงให้พี่น้องประชาชนเข้าใจ รับใช้ประเทศชาติทำความดีมาพอสมควร แต่ก็ขอน้อมรับคำตัดสินของศาล