เสียความรู้สึก! ครอบครัวผู้โดยสารที่ถูกรถ บ.ข.ส. เส้นทาง กรุงเทพ-เกาะสมุย ไล่ให้ลงจากรถระหว่างทาง เนื่องจากลูกร้องเสียงดัง เดินทางถึงเกาะสมุยแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา ยอมรับเสียความรู้สึกมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยภรรยาถึงกับร้องไห้เนื่องจากรับไม่ได้แค่เด็กร้องไห้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงไม่น่าจะไล่ลงจากรถ ล่าสุด กรมการขนส่งทางบก เตรียมเรียกพนักงานขับรถและ บ.ข.ส. มาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ม.ค.61) นายมงคล ทองโบราณ พร้อมด้วยภรรยา และลูกชายอีก 2 คน ที่ถูกรถ บ.ข.ส. เส้นทางสาย กรุงเทพ-เกาะสมุย ที่ตนและภรรยาได้โดยสาร ไล่ลงระหว่างทางที่ อ.ชะอำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 7 ม.ค. เนื่องจากว่าเด็กร้องเสียงดัง จนทำให้ไปรบกวนการหลับนอนพักผ่อน ของคนขับรถคนที่ 2 นอนไม่หลับ ได้เดินทางถึงท่าเทียบเรือโดยสารเฟอร์รี่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี อย่างปลอดภัยแล้ว ทั้งยังเปิดใจกับสื่อ ว่ารับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภรรยาเสียใจจนร้องไห้
นายมงคล ทองโบราณ เล่าให้ฟังว่า ตนเองยอมรับว่าลูกชายคนเล็กร้องไห้เสียงดังจริงแต่ก็ร้องไห้ประมาณ 30 นาที ทางบริกรบนรถประจำทางคันดังกล่าวได้มาบอกให้ตนและครอบครัวลงจากรถ เนื่องจากเสียงร้องของลูกชายคนเล็กส่งเสียงดัง ทำให้คนขับรถคนที่ 2 ที่นอนพักผ่อนอยู่นอนไม่หลับ แต่ผู้โดยสารคนอื่นในรถคันดังกล่าว ก็ไม่ได้มีใครต่อว่าอะไรตน เพราะผู้โดยคนอื่นคงจะเข้าใจว่าเด็กร้องไห้สักพักก็หาย จะมีก็แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางถามตนว่า ลูกร้องแบบนี้ไม่สบายหรือเปล่า เด็กปวดท้องหรือเปล่า ตนก็ตอบไปว่า เด็กเพิ่งเดินทางไกลครั้งแรกก็เลยตื่นกลัว ชาวต่างชาติก็ไม่ได้มีการต่อว่าอะไร
ซึ่งหลังจากรถ บ.ข.ส. คันดังกล่าวจอดให้ตนและครอบครัว ลงที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งแถว อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พร้อมทั้งกระเป๋าสัมภาระ เมื่อลงจากรถได้ประมาณ 5 นาที ลูกชายคนเล็กก็หยุดร้อง ตนและภรรยาจึงได้ไปเปิดห้องพักโรงแรมที่อยู่ในปั๊มเพื่อพักผ่อนและจะได้เดินทางต่อ แต่ตอนนั้นลำบากมาก หลังจากเปิดห้องพักแล้วเหลือเงินติดตัวแค่ 25 บาท ก็ต้องโทรหาญาติที่เกาะสมุยให้โอนเงินไปให้ใช้ในการเดินทางต่อวันต่อมา ซึ่งตนเอง ภรรยาและลูก ๆ เดินทางมาต่อมาเกาะสมุยด้วยรถไฟ จากประจวบคีรีขันธ์ มาลงที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี และมีญาติเดินทางไปรอรับที่สถานีรถไฟเพื่อเดินทางต่อมายังเกาะสมุย
พร้อมกันนี้ นายมงคล กล่าวถึงความรู้สึกว่า เขาและครอบครัวเสียความรู้สึกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ซึ่งภรรยาถึงกับร้องไห้ที่จริงแล้วถ้ารถ บ.ข.ส. คันดังกล่าว จอดพักที่ปั้มสัก 5-10 นาที เพื่อให้เด็กได้ลงจากรถไปเดินเล่นผ่อนคลาย เด็กก็คงจะหายร้องแล้ว แล้วค่อยกลับขึ้นเดินทางต่อ แต่ไม่ถึงกับให้ตนและครอบครัวพร้อมสัมภาระกระเป๋า 4 ใบลงที่ปั๊มแห่งนั้นเลย ทำให้ตนและครอบครัวเสียความรู้สึกกับการบริการมากในครั้งนี้ จึงฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดูแลในเรื่องนี้สักหน่อย เนื่องจากยังมีครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ๆ เดินทางด้วยรถโดยสารอีกเป็นจำนวนมาก ก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวอื่นอีก
เบื้องต้น บริษัท ขนส่ง จำกัด ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวจากทางพนักงานขับรถแล้วเมื่อวานทีผ่านมา (8 ม.ค.) เบื้องต้น บริษัทฯ เห็นว่าการกระทำของพนักงานเป็นการไม่สมควรและตัดสินใจโดยพลการ ทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวก ซึ่งจะพิจารณาโทษทางวินัยต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : บขส. ลงโทษวินัย “พนักงานไล่ผู้โดยสารพ่อแม่ลูก 4 คนลงรถกลางดึก”
อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวไบรท์ทีวี ได้สอบถามข้อมูลกับทางกรมการขนส่งทางบก ซึ่งขณะนี้ได้ติดตามพนักงานขับรถโดยสารคันดังกล่าว และบริษัทฯ เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป