จากกรณีที่หญิงสาววัย 22 ปีที่ถูกน้ำมันราดแล้วจุดไฟเผา จากฝีมือของหนุ่มอดีตแฟนเพื่อน เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยอ้างว่าถูกเยาะเย้ย ที่หญิงสาว(ที่ถูกจุดไฟไหม้) พาแฟนเก่ามาเจอ เหมือนเป็นการตอกย้ำแผลในใจ ทำให้โกรธแค้นประกอบกับมีอาการเมา จึงก่อเหตุในครั้งนี้ ท่ามกลางเพื่อนร่วมงานที่นั่งกินส้มตำอยู่ และไม่มีใครคาดว่าคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น จนล่าสุดเมื่อวาน (19 ก.ค.) แม่ของผู้เสียหายเดินทางมาจากจ.อุบลราชธานี เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี หลังคดีไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวในชั้นศาล เมื่อออกมาไม่สำนึก ก็ยังมาข่มขู่ตัวผู้ต้องหา และเพื่อนที่เป็นพยาน
วันนี้ แม่ของผู้เสียหาย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ พร้อม พ.ต.อ.โฆษิต บุญทวี ผู้กำกับการ สน.วัดพระยาไกร เข้าเยี่ยมหญิงสาวผู้เสียหาย ที่ยังพักรักษาตัวจากบาดแผลที่สาหัส โดยถูกไฟไหม้ในระดับ 2 นายแพทย์ สุกิจ ศรีทิพยวรรณ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ และทีมแพทย์ที่ให้การรักษาจะได้สรุปผลการรักษาให้รับทราบเบื้องต้น ว่า ผู้เสียหายได้เข้ารับการรักษา ตั้งแต่ 8 ก.ค. ล่าสุด ตรวจเปอร์เซ็นของผิวหนังมีอาการดี
ขึ้นตามลำดับ แต่คาดว่าจะอยู่รักษาต่อที่โรงพยาบาลอีกประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้แผลหายดีก่อน จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนบาดแผลที่เป็นห่วงมีเฉพาะที่หลัง คอ และบริเวณหน้าอก ซึ่งต้องรอให้เซลล์แผลต่างๆ สมานกันได้ดี ก่อนที่เริ่มทำศัลยกรรมใหม่ โดยน้องยังมีภาวะเครียด เพราะกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่ น้องเนย เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์เดินทางมาด้วย เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุคนร้ายยังข่มขู่ว่าตนเองว่า อาจจะร้ายเป็นรายต่อไป ทั้งๆที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางต่อกัน ส่วนผู้หญิงที่เป็นแฟนเก่าของหนุ่มที่ก่อเหตุก็อยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งเลิกกันยังไม่ถึงปี แต่ยอมรับว่า กลัวชาหนุ่มมาก่อเหตุซ้ำอีก
ด้านนางปวีณาจะได้ประสานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมเรื่องขอคุ้มครองพยานด้วย พร้อมขอให้ตำรวจยื่นเรื่องถอนประกันผู้ต้องหาที่ยังมีพฤติกรรมข่มขู่พยานและผู้เสียหาย
ผู้กำกับการ สน.วัดพระยาไกร ระบุว่า ต้องกลับไปดูสำนวนอีกครั้งว่า การส่งฟ้องครั้งแรกได้คัดค้านการประกันตัวหรือไม่ ส่วนการตั้งข้อหาข่มขู่เพิ่มก็ต้องรอดูพยานหลักฐานเช่นเดียวกัน ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย