มลพิษทางอากาศค่า PM10 ในพื้นที่ จ.ลำปาง ล่าสุดทะลุเกือบ 300 ไมโครกรัม ขณะที่ไฟป่าเกิดขึ้นไปทั่ว ล่าสุด กองทัพภาคที่ 3 สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ มาดับไฟป่าที่กำลังลุกลามหนักอีกไม่กี่กิโลจะถึงป่าด้านหลังศูนย์ราชการจังหวัดลำปางแล้ว
23 มี.ค.60 ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำ 3 ศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง เฮลิคอปเตอร์ รุ่น เบลล์ 212 ของกองทัพภาคที่ 3 และนักบินช่างเครื่อง และ ถังน้ำชนิดแขวนใต้ท้องเครื่องขนาด 400 ลิตร ได้บินมาตักในอ่างแห่งนี้เพื่อบินไปทิ้งน้ำดับไฟป่าที่เกิดขึ้นตามแนวสันเขาหลังวัดพระบาทม่อนพระยาแช่ เขตวนอุทยานม่อนพระยาแช่ ต.พิชัย แห่งนี้ รวมทั้งแนวสันเขาดอยพระบาท และสวนรุกชาติพระบาท ที่กำลังลุกลามอย่างหนักอีกครั้งในฝั่งเขต อ.เมืองลำปาง โดยได้ลุกไหม้มานานติดต่อกัน 3 วันแล้วผืนป่าเสียหายกว่า 500 ไร่ กินระยะทางหลายกิโลเมตร
ทั้งนี้ ในการบินทิ้งน้ำดับไฟป่า ทางนักบินได้ตักน้ำบินไปทิ้งน้ำในจุดที่เจ้าหน้าที่ดับไฟป่า เข้าไปไม่ถึง แต่กำลังภาคพื้นดินจะทำแนวกันไว้รอไว้ข้างล่างส่วนจุดที่เข้าไปถึงก็จะดับไฟที่ยังหลงเหลือให้สนิทเพื่อไม่ให้กลับมาประทุลุกไหม้อีกครั้ง นอกจากนี้ ไฟป่าที่เกิดขึ้น ยังขยายวกว้างไปเรื่อยๆ ลุกลามไหม้ป่ามาเกือบถึงด้านหลัง ศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง อีกไม่ถึงกิโลเมตรแล้ว
สำหรับเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ ยังส่งผลทำให้กลุ่มควันไฟเข้ามาปกคลุมพื้นที่เขตเมืองรวมทั้งอีกหลายพื้นที่ใน จ.ลำปาง จนเกิดปัญหามลพิษทางอากาศ โดยล่าสุด ปริมาณฝุ่นควันขนาดเล็กหรือค่า PM10 ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกิดค่ามาตรฐานจากเครื่องตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษที่ติดตั้งในจังหวัดลำปางทั้ง 4 เครื่อง แล้วโดยค่าสูงสุดอยู่ที่ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ ที่ 270 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาที่ ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง ที่ 205 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะที่ 170 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่ ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ 130 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่า จ.ลำปาง มีค่ามลพิษทางอากาศครอบคลุมทั้งจังหวัดและสูงสุดในประเทศไทยแล้ว ขณะไฟป่ายังเกิดขึ้นไปทั่วแล้วเจ้าหน้าที่ก็ยังคงทำงานกันอย่างหนักในขณะนี้