คมนาคม เปิดไฟเขียว ผู้ให้บริการรถแท็กซี่มิเตอร์ ปรับขึ้นค่าโดยสาร 10% เพิ่มค่าเซอร์วิสชาร์จ ขยายอายุรถแท็กซี่ 9 ปีเป็น 12 ปี พร้อมจัดระเบียบรถผิดกฎหมาย มีผลภายใน 1 เดือน
เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังจากประชุมหารือร่วม 2 ฝ่าย คือกระทรวงคมนาคมและแท็กซี่ เพื่อแก้ไขปัญหาผู้ให้บริการรถแท็กซี่มิเตอร์
โดยภายหลังการประชุม เห็นชอบร่วมกันที่จะให้มีการปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่เพิ่มขึ้น สาเหตุเนื่องจากให้มีความสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวสูงขึ้น ผู้ประกอบการมีต้นทุนทั้งค่าเชื้อเพลิง ค่ารถ ค่าอะไหล่สูงขึ้น โดยหลังจากนี้ให้กรมการขนส่งทางบก จัดทำประกาศอัตราค่าโดยสารใหม่ก่อนเสนอกลับมาให้รมว.คมนาคม ลงนามเห็นชอบภายใน 1 เดือน
สำหรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่มิเตอร์จะเริ่มต้นที่ 35 บาทดั่งเดิมแต่มีรายละเอียดที่ปรับเพิ่มดังนี้
- 1 กม.แรก-10 กม.จากเดิม 5.50 บาท/กม. ปรับเป็น 6.50 บาท/กม.
- ระยะทาง10 กม.-20 กม. จากเดิมคิดอัตรา 6.50 บาท/กม. ปรับเป็น 7 บาท/กม.
- ระยะทาง20-40 กม.จากเดิมคิดอัตรา 7.50 บาท/กม. ปรับเป็น 8 บาท/กม.
- ระยะทาง 40-60 กม. จากเดิมคิดอัตรา 8 บาท/กม. ปรับเป็น 8.50 บาท/กม.
- ระยะทาง 60-80 กม. ยังคงราคาเดิมที่ 9 บาท/กม.
- ระยะทางจาก 80 กม.เป็นต้นไป คงคิดอัตราค่าโดยสารเดิมที่ 10.50 บาท/กม.
สำหรับการคิดค่าบริการในเวลารถติดจากเดิมปรับให้เฉพาะรถแท็กซี่วีไอพี ปรับเป็นช่วงรถติด ที่มีความเร็วไม่เกิน 6 กม./ชม.จากนาทีละ 2 บาท เป็น 3 บาท
ด้านนายศักดิ์สยามได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกไปดำเนินการจัดทำแอปพลิเคชันใหม่ เพื่อมาทดแทนแอปพลิเคชันแท็กซี่ โอเค เพื่อเป็นการจัดระเบียบรถแท็กซี่ป้ายเหลืองในปัจจุบัน ภายใน 1 เดือน
ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่จะอนุมัติให้ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ปรับราคาตามข้อเรียกร้องที่ได้มีการอนุมัติเห็นชอบในครั้งนี้ และขยายอายุการใช้งานรถแท็กซี่ จาก 9 ปี เป็น 12 ปี แต่ต้องผ่านการตรวจสภาพตามระเบียบกรมการขนส่งทางบก
ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องการขึ้นค่าเซอร์ชาร์จ Surcharge นั้น ให้รถแท็กซี่ที่ให้บริการในสนามบิน ปรับขึ้นจาก 50 บาท เป็น 70 บาทสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก และรถแวนปรับขึ้นเป็นราคา 90 บาท พร้อมกับเก็บค่าบริการยกกระเป๋า ขนาด 26 นิ้วขึ้นไป ซึ่ง 2 ใบแรกจะไม่คิดค่าบริการ แต่ใบที่ 3 เป็นต้นไป ให้คิดค่ายกใบละ 20 บาท
ขณะเดียวกันทางคมนาคมได้ให้กรมการขนส่งทางบกไปปรับแก้ไขกฎหมายให้สามารถนำรถป้ายดำหรือรถส่วนบุคคล มาให้บริการสาธารณะได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ผูกขาดกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนและเสียภาษีในประเทศไทย
ทั้งนี้รถส่วนบุคคลที่จะมาให้บริการและขึ้นทะเบียน จะต้องมาขึ้นทะเบียนกับบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับ เช่น การเสียภาษีรายได้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
อ่านข่าว Bright Today