มาติดตามคดีของสามเณรวัย 9 ขวบ เหยื่อหลวงตาโหดที่ทำร้ายร่างกายจนอาการโคม่า เลือดออกในสมอง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ขณะที่หลวงตา ถูกตำรวจจับกุมตั้งแต่เมื่อวาน รับสารภาพเณรได้ก่อเรื่องรังแกเณรน้องชาย จึงเรียกมาตักเตือน แต่เณรได้ด่าบรรพบุรุษ จึงโมโห ไม่คิดว่าจะรุนแรงขนาดนี้ เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนบาดเจ็บสาหัส
ความคืบหน้ากรณี สามเณร วัฒนพล สีสวัสดิ์ หรือ เณรดิว อายุ 9 ขวบ ที่บวชจำพรรษาอยู่ที่วัดดอนขมิ้น ต.ลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ถูกทำร้ายร่างกาย อาการสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา อ.เมืองกาญจนบุรี อาการยังโคม่า เป็นตายเท่ากัน โดยหลังจากเกิดเหตุ อดีตหลวงตาศุภชัย หรือ นายสุภชัย บุญลักขะ อายุ 64 ปี อดีตพระลูกวัดดอนขมิ้น ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากได้รับมอบหมายให้ดูแลเณรทั้ง 4 แต่เณรวัฒนพล มีนิสัยดื้อมากจึงดุว่า ก่อนเกิดเหตุได้ทำวัตรสวดมนต์เย็น เณรได้ก่อเรื่องรังแกเณรน้องชาย จึงเรียกมาว่ากล่าวตักเตือน แต่เณรได้ด่าบรรพบุรุษนายศุภชัย จึงโมโหแล้วทำร้ายร่างกาย แต่ไม่นึกว่าอาการจะหนัก พอเห็นว่าเณรบาดเจ็บมาก จึงติดต่อมูลนิธิของวัดนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาต่อไป
ล่าสุดแพทย์โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา แถลงอาการของเณรดิว ให้ทางนางสุกัญญา ตุ้นฮิ้น อายุ 33 ปี และนายวัฒนา สีสวัสดิ์ อายุ 36 ปี มารดาและบิดา รวมทั้งญาติๆ ของสามเณรดิว ทราบว่า อาการยังน่ากังวล ซึ่งถูกส่งต่อมาจากโรงพยาบาลมะการักษ์ พบว่า มีเลือดออกที่สมอง ใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา และยังไม่รู้สึกตัว มีการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม พบว่ามีความผิดปกติที่สมองเพิ่มมากขึ้น ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้ เนื่องจากอาการไม่เหมาะสม มีโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง จึงให้การรักษาเป็นแบบประคับประคองและแจ้งให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะๆ โดยมีนายแพทย์วสุ ศรีวสุธา ศัลยแพทย์ระบบประสาท และสมอง เป็นแพทย์ผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด
ขณะที่นางสุกัญญา บอกว่า ซึ่งตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ ช่วยให้ลูกฟื้นขึ้นมา ถึงแม้จะฟื้นขึ้นมาแล้วจะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตและอยู่กับตนได้ไม่นานนักตาม แต่คงไม่ตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจออก เพราะไม่สามารถทำใจได้ขณะนี้
สำหรับเรื่องคดีความก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการกับผู้กระทำผิด ซึ่งอดีตหลวงตาศุภชัย ก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือทำร้ายจริง ซึ่งตอนนี้ตนก็จะขอทำหน้าที่ของแม่ให้ดีที่สุดในช่วงวาระสุดท้าย
ทั้งนี้ครอบครัวมีฐานะยากจน เป็นคนหาเช้ากินค่ำ สามเณรดิว ลูกชาย จึงอาสาที่จะบวชเรียนภาคฤดูร้อน เพื่อให้ครอบครัวสบายขึ้น แต่ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้ ตนเองพยายามที่จะทำใจ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหันมาก จึงรับไม่ได้ที่ลูกจะไม่ได้อยู่กับเราตลอดชีวิตแล้ว
สำหรับสามเณรดิว ลูกชาย มีนิสัยซุกซนตามประสาเด็ก ซึ่งก็ได้แจ้งอดีตหลวงตาศุภชัย ไปแล้วว่า สามเณรลูกชาย ชอบเล่นไฟ ซึ่งที่ผ่านมา อดีตหลวงตาศุภชัย ก็มักจะลงโทษด้วยการตี จนทำให้มีบาดแผลบ้าง แต่ในครั้งถือว่าทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ ซึ่งจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ขณะที่นายวัฒนา พ่อ สามเณรดิว เปิดเผยว่า ได้แยกทางภรรยาได้ประมาณ 1 ปี แล้ว มีบุตรชายด้วยกัน 2 คน คือ สามเณรดิว และ สามเณร วัย 5 ขวบ ที่บวชเรียนพร้อมกันอีกหนึ่งคน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้รู้สึกเสียใจมาก แต่ก็คงไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว ยอมรับว่า ไม่ค่อยมีเวลามาดูแลลูก ซึ่งคงต้องโทษตัวเองด้วย เพราะการที่พ่อแม่แยกทางกัน อาจเป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น แต่พระก็ไม่น่าจะทำโทษรุนแรงขนาดนี้ อย่างไรก็ตามตนฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้ดำเนินการในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด และขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวตนด้วย โดยขอให้อดีตหลวงตาศุภชัย ได้รับกรรมที่เขาได้ก่อไว้ในครั้งนี้
ด้าน ร.ต.อ.อำนาจ จันทร์บุตร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลูกแก จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน ประกอบการวินิจฉัยของแพทย์ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิดเพิ่มเติม