แม่โพสต์ข้อความผ่านโซเซียล ต่อว่าการรักษาของแพทย์และพยาบาล โรงพยาบาลรัตนบุรีในจังหวัดสุรินทร์ ล่าช้าไม่ใส่ใจ คนไข้จนลูกน้อยวัย ขวบเศษติดเชื้อในกระแสเลือดเสียชีวิต ยังต้องการคำชี้แจงจากโรงพยาบาล
จากกรณีที่มีผู้โพสต์เฟสบุ๊กชื่อว่า AunAun Yuppayong โพสต์ข้อความว่า แจ้งอาการ “น้องอันนา” มาที่โรงบาลประจำอำเภอรัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 14 บ้านโนนตาล ต.ธาตุ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ พบ น.ส.ยุพยงค์ สุโข อายุ 24 ปี แม่ของ ด.ญ.ชญานุศภัฒค์ สุโข หรือน้องอันนา อายุ 1 ขวบ 7 เดือน ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพผู้ตาย หลังจากถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดสุรินทร์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งบรรยากาศงานศพเป็นไปด้วยความเศร้าโศก มีเพียงญาติ ๆ และเพื่อนสนิท มาช่วยกันจัดงานศพน้องอันนา
น.ส.ยุพยงค์ สุโข อายุ 24 ปี แม่ของ ด.ญ.ชญานุศภัฒค์ สุโข หรือน้องอันนา เปิดเผยว่า ตนเองมีลูกสาวเพียง 1 คน อายุ 1 ขวบ 7 เดือน ซึ่งน้องอันนานั้นร่างกายแข็งแรงดี เมื่อเช้าวันที่ 23 มีนาคม 2561 น้องอันนา มีอาการอาเจียน 3 ครั้ง จึงพาน้องมาที่โรงพยาบาลรัตนบุรี มาถึงตอน10โมงเช้า ได้ยื่นบัตรซักประวัติ น้องอันนาได้ส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน พยาบาลบอกให้รอหมอเด็กช่วง 11โมง ต่อจากนั้นพยาบาลก็มาเจาะเลือดให้น้ำเกลือในเวลา12.00 น. ประมาณบ่ายโมงกว่า น้องหายใจผิดปกติ จึงเรียกพยาบาลมาดูพยาบาลบอกว่าเป็นปกติ เพราะเด็กใส่เครื่องช่วยหายใจ และเวลา 14.00 น. หมอที่ไม่ใช่หมอเด็กโดยตรงมาดู พูดว่าน้องอาการแย่หายใจผิดปกติ ต้องรีบส่งตัวเข้าโรงพยาบาลประจำจังหวัดสุรินทร์ แต่ทำไมไม่กระตือรือร้นที่จะรีบส่งตัวน้องอันนามาโรงพยาบาลจังหวัด
กระทั่งมาถึงโรงบาลในตัวจังหวัด 18.00 น.น้องเข้าห้องฉุกเฉินแล้วย้ายขึ้นICU แพทย์แจ้งว่า
น้องมีเลือดออกในสมองทำให้สมองตาย ม่านตาก็ไม่ตอบสนองสมองบวมปรึกษากับหมอศัลยกรรมแล้วว่าผ่าตัดไม่ได้ตอนนี้มีโอกาสรอด 5%ให้ญาติทำใจเพราะน้องมีชีวิตอยู่ได้ด้วยยากระตุ้นความดัน ซึ่งผู้เป็นแม่ จึงติดใจการรักษา หากแพทย์โรงพยาบาบรัตนบุรีมีจรรยาบรรณ ใส่ใจการรักษา ลูกก็คงไม่เสียชีวิต เพราะน้องเข้าโรงพยบาลเพียงอาเจียนเท่านั้น จึงอยากให้ชี้แจงและรักผิดชอบ
แม่ของน้องอันนา กล่าวอีกว่า ที่ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม เพราะต้องการให้ โรงพยาบาลนี้มีการแก้ไขปรับปรุง เหตุการณ์ลักษณะนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นกับคนอื่นหรือลูกหลานต่อไปอีก
ขณะที่น.ส.สุภาภรณ์ สุโข อายุ 29 ปี ป้าของน้องอันนา กล่าวว่า ตนอยากได้คำชี้แจงให้ชัดเจน ในเรื่องการรักษาของน้องอันนา ที่โรงพยาบาลรัตนบุรี ว่าทำไมพวกคุณไม่กระตือรื้อล้นให้มากกว่านี้ ทั้งๆ ที่พวกคุณก็พูดกันอยู่ว่าอาจจะเกี่ยวกับสมอง อีกเรื่องการส่งตัวน้องอันนา ช้าเกือบ 2 ชั่วโมงทั้ง ๆ ที่น้องอันนาก็มีอาการหนักมาก พวกคุณเตรียมตัวชี้แจงให้ละเอียดเพราะเราไม่จบแค่นี้ เราไม่ได้ต้องการที่จะโทษใคร แต่ในบางเรื่องเราต้องการการชี้แจง โดยเฉพาะบุคคลากรโรงพยาบาลรัตนบุรีแย่มาก ถ้าเอาใจใส่คนไข้สักนิด น้องอันนาคงไม่ตาย
ด้านนายแพทย์สินชัย ตันติรัตนานนท์ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจำอำเภอรัตนบุรี ชี้แจงกรณีที่“น้องอันนา” ทางบุคลากรของโรงพยาบาลประจำอำเภอรัตนบุรี ขอเสียใจกับครอบครัว ผู้เสียชีวิตด้วยซึ่งข้อมูลเบื้องต้น เด็กที่มาโรงพยาบาลมาที่ตึกผู้ป่วยนอก เด็กมาอาการค่อนข้างที่หนักมากพอสมควรจึงได้ส่งไปยังห้องฉุกเฉิน ทางห้องฉุกเฉินได้ประเมินอาการและสังเกต จากนั้นก็ส่งไปยังห้องผู้ป่วยเด็กจะมีการดูแลอย่างใกล้ชิด ได้รับยาดูแลอย่างต่อเนื่อง ต่อมาพบว่าเด็กมีอาการหายใจผิดปกติ จึงได้ใช้เครื่องช่วยหายใจ และส่งต่อให้ทางโรงพยาบาลประจำจังหวัดดูแลอีกช่วงหนึ่ง
เพื่อให้หมอเฉพาะทางดูแล การส่งต่อต้องมีพยาบาลเฉพาะทางไปด้วย ซึ่งข้อจำกัดโรงพยาบาลรัตนบุรี เป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอ มีบุคลากรจำกัด การส่งต่อต้องมีพยาบาลชำนาญเฉพาะทางไปส่งต่อร่วมด้วย อีกอย่างการใช้คำพูดที่มีคำพูดไม่เหมาะสม ต้องขออภัยด้วย ในส่วนของสาธารณสุขเองได้นำเรื่องดังกล่าวเข้ามาวิเคราะห์ ได้นำเครสต่างๆในการทำงานเข้ามาวิเคราะห์ มีการกำหนดแนวทางให้มีความเหมาะสม ในเรื่องบุคลากร มีการว่ากล่าวตักเตือน บุคคลากรที่ใช้คำพูดไม่เหมาะสม
ทางสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ตั้งกรรมการเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงในครั้งนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจและทำความเข้าใจกับคุณแม่ ของน้องอันนาว่าเกิดอะไรขึ้น และได้ทำความเข้าใจกัน ซึ่งอาจเป็นขบวนการทางการแพทย์ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนบ้าง ซึ่งทางการแพทย จะทำการดูแลให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
