22 ก.พ.60 ที่เขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 คลองน้ำมัน ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พลตรีวิฑูรย์ ศิริปักมานนท์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดนครราชสีมา เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการปฏิบัติภารกิจของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ อ.ครบุรี และ อ.เสิงสาง พร้อมแถลงผลการจับกุมขบวนการลักลอบตัดและลำเลียงไม้พะยูงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ อ.ครบุรี ที่มีการบูรณาการร่วมทุกภาคส่วน ได้ทำการสกัดจับรถกระบะฟอร์ด สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ขง 1002 ขอนแก่น ติดหลังคากระบะ ซึ่งบรรทุกไม้พะยูงมาเต็มคันรถรวมทั้งหมด 13 ท่อนกับอีก 1 แผ่น ปริมาตรรวม 1.19 ลบ.ม. มูลค่าเกือบ 1,000,000 บาท พร้อมคนขับรถคือนายกิตติ ชูไทย อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ตามบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ 33 ม.1 ต.นาอาน อ.เมืองเลย จ.เลย
เจ้าหน้าที่สามารถทำการจับกุมได้ที่บริเวณเส้นทางจากหมู่บ้านตลิ่งชัน มุ่งหน้าสู่หาดจอมทอง เขื่อนมูลบน ท้องที่ ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ที่ผ่านมา เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาว จ.บึงกาฬ ให้ขับรถจาก จ.ขอนแก่น เพื่อมาบรรทุกไม้พะยูงกลับไปส่งต่อให้กับขบวนการที่จุดเดิมที่ไปรับรถมา หากสำเร็จจะได้เงินค่าจ้างจำนวน 15,000 บาท โดยไปรับไม้มาจากป่าอ้อยท้ายหมู่บ้านตลิ่งชัน และกำลังจะเดินทางไปยังจุดหมายแต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับได้เสียก่อน ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปทำการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ครบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.วิฑูรย์ ศิริปักมานนท์ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์การลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานยังคงมีการตรวจพบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็มีทั้งชาวไทยและแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ทุกหน่วยงานได้มีการบูรณาการร่วมกันในการจัดกำลังเพื่อมาช่วยแก้ไขปัญหาทั้งในเรื่องของการป้องกันและการปราบปราม แต่ด้วยราคาไม้พะยูงนั้นค่อนข้างสูงจึงเป็นแรงจูงใจทำให้ยังพบว่ามีการกระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง แต่สถานการณ์ก็เริ่มเบาบางลงต่อเนื่องเช่นกันเนื่องจากการเอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะยังคงเดินหน้าร่วมกันเพื่อยับยั้งและแก้ไขปัญหานี้อย่างเข้มงวดต่อไป