หลังจากโซเชียลมีเดียแชร์เรื่องราวนักท่องเที่ยวสาวชาวไทยและสามีชาวต่างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กและแชร์ต่อ ๆ กันว่าได้เช่ารถแท็กซี่คันหนึ่งจากหาดใหญ่ไปยังท่าเทียบเรือปากบารา จ.สตูล แต่ระหว่างทางคนขับจอดรถบ่อยและเมื่อถามคนขับทราบว่าแฮงค์เหล้า และเปลี่ยนให้สามีชาวต่างชาติขับแทน อีกทั้งต้องเสียเงินค่ารถพันกว่าบาท ซึ่งได้มีผู้คนเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ล่าสุด เจ้าหน้าที่ขนส่ง จ.สงขลา แจ้งดำเนินคดี 4 ข้อหากับคนขับแท็กซี่หาดใหญ่ อ้างไม่ได้แฮงค์แต่มาจากปัญหาสุขภาพ
นายวรวุฒิ มาอินทร์ ขนส่งจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยตำรวจท่องเที่ยวหาดใหญ่ และตำรวจสภ.หาดใหญ่ นำตัว นายสะฝีอี หมัดหลี อายุ 51 ปี ชาว จ.สงขลา คนขับแท็กซี่คิวบริเวณหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ พร้อมรถที่ใช้ในวันเกิดเหตุเป็นรถแท็กซี่เถื่อนที่ไม่ได้รับอนุญาต คือ รถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กอ 214 สงขลา
หลังจากนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสะฝีอี ให้การว่า วันเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นหญิงไทยและสามีชาวต่างชาติเหมารถจากหน้าคิวรถตู้ตลาดเกษตรหาดใหญ่ในไปส่งที่ท่าเรือปากบารา จ.สตูล แต่ระหว่างทางมีอาการผิดปกติ เหงื่อแตก และวิงเวียนศีรษะจากโรคประจำตัวโดยลืมกินยาจนไม่สามารถขับต่อได้ จึงถามผู้หญิงว่าสามีขับรถเป็นไหม ฝ่ายหญิงบอกว่าขับเป็นจึงได้เปลี่ยนให้ขับและตนเองเป็นคนบอกทาง ซึ่งขับไปตามปกติจนถึงจุดหมายที่ท่าเทียบเรือปากบารา โดยซึ่งทั้งสองผัวเมียก็ไม่ได้มีท่าทีว่าโกรธหรือไม่พอใจและจ่ายค่ารถพันกว่าบาท
นายสะฝีอี บอกว่า สาเหตุที่ขับรถไม่ไหวไม่ได้มาจากอาการแฮงค์จากการกินเหล้า แต่ยอมรับว่าดื่มเหล้าเป็นประจำหลังเลิกงานในช่วงค่ำ และช่วงกลางวันก็ขับรถได้ตามปกติแต่ในวันนั้นมีปัญหาเรื่องสุขภาพจริงและไม่ได้กินยา จึงยังงง ๆ ว่าทำไม่นักท่องเที่ยวคู่นี้จึงนำเรื่องราวมาโพสต์ในทางเสียหาย เพราะหากตนยังฝืนขับไปอาจเกิดอุบัติเหตุได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ขนส่ง จ.สงขลา ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีกับ นายสะฝีอี รวม 4 ข้อหา คือ ประกอบการขนส่งประจำทางโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบการขนส่งโดยรถขนาดเล็กโดยไม่ได้รับอนุญาต และประกอบการขนส่งส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต