หลังจากมีผู้หญิงคนหนึ่งสั่งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อหนึ่ง ที่ระบุสรรพคุณว่า กินแล้วจะทำให้ “อกฟูรูฟิต” มากินผ่านทางโซเชียล โดยไม่ได้ตรวจสอบสรรพคุณให้ดี ทำให้เธอเสียชีวิตเพราะเกิดอาการไตวายเฉียบพลัน จนหลานสาวต้องนำยาดังกล่าวมาให้สาธารณสุข จ.แพร่ ตรวจสอบ ล่าสุดกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ! เมื่อเจ้าของผลิตภัณฑ์บ้านแก้วใส (ว่านเสน่ห์หา) ที่ถูกกล่าวหา ผลการตรวจสอบว่าไม่สารอันตรายที่ทำให้ถึงแก่ความตาย
ข่าวที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้ :
ญาติข้องใจร้องตรวจสอบยา’อกฟูรูฟิต’ กินถึงตาย (มีคลิป)
อย.ชี้โฆษณา “อกฟูรูฟิต” ผิดกฎหมาย
น.ส.อาทิติญา อันทระบุตร อายุ 24 ปี ชาว จ.ขอนแก่น เจ้าของผลิตภัณฑ์บ้านแก้วใส (ว่านเสน่ห์หา) นำเอกสารหลักฐานประกอบด้วย ผลตรวจจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข, รายงานผลวิเคราะห์จากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 8 อุดรธานี และรายงานผลการตรวจจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.พระธาตุช่อแฮ แจ้งว่า ขอให้ติดตามตัว น.ส.กมลชนก กองโกย อายุ 27 ปี ชาว ต.ช่อแฮ อ.เมืองแพร่ หลังจากเคยให้ข่าวว่า น.ส.วิจิตตรา จันตาพรม สาวชาวแพร่ เสียชีวิตจากการรับประทานผลิตภัณฑ์ของเธอ เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา โดย น.ส.อาทิติญา บอกว่า ตอนนี้ผลการตรวจจากหน่วยงานต่าง ๆ ออกมาแล้ว ปรากฏว่าผลิตภัณฑ์ของเธอไม่มีสารอันตรายใด ๆ ทั้งสิ้น เธอจึงได้เดินทางมาแจ้งพนักงานสอบสวน เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตนและขอให้ผู้ให้ข่าวมารับผิดชอบในการให้ข่าวและทำให้ผลิตภัณฑ์ขอเธอเสียชื่อเสียง และต้องระงับการจำหน่าย
น.ส.อาทิติญา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า หลังจากเกิดเหตุจนเป็นข่าวใหญ่โตว่า มีสาวแพร่ เสียชีวิตเพราะผลิตภัณฑ์บ้านแก้วใส (ว่านเสน่ห์หา) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของเธอ ทำให้เธอต้องระงับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เมื่อเดินทางไปไหน มีแต่คนถามเธอว่า เป็นเรื่องจริงหรือ ที่มีคนทานผลิตภัณฑ์ของเธอแล้วเสียชีวิต ซึ่งช่วงหลังเกิดข่าวส่งผลต่อชีวิตเธอมาก รายได้หดหาย ต้องเอาของมีค่าที่เก็บไว้มาจำนำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวแทนจำหน่ายหลายรายโทรมาร้องห่มร้องให้ เพราะบางคนสั่งของมาสต๊อกของไว้ ไม่เชื่อว่าสินค้าของเราจะมีสารอันตราย เธอจึงได้แต่ปลอบตัวแทนจำหน่ายว่า ให้อดทน เพราะเราเชื่อว่าสินค้าของเราไม่มีสารอันตราย และให้รอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
และยังกล่าวอีกว่า ในเรื่องที่มีคนสงสัยว่าทำไมตอนที่เป็นข่าวดังไม่ออกมาโต้ตอบ เป็นเพราะว่า เธอต้องการให้มีการพิสูจน์จากหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขมายืนยันเสียก่อน เพราะหากตอนนั้นเธอพูดปากเปล่า และตอบโต้ไปไปมาไม่เป็นการดีแน่ จึงรอจนกระทั่งมีผลพิสูจน์อย่างเป็นทางการออกมา และเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อเรียกร้องให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบจากการให้ข่าวออกไป ซึ่งวันนี้เธอไม่ต้องการเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่ได้อยากร่ำรวย จากค่าปรับสินไหม แต่เพียงต้องการให้ความน่าเชื่อถือของสินค้ากลับคืนมา เพื่อให้เธอกลับมาขายได้ และวันนี้จึงอยากให้คู่กรณีออกมาขอโทษและชี้แจงให้สังคมรับทราบข้อเท็จจริงว่า สินค้าของเธอนั้นไม่สาเหตุที่ทำให้มีคนเสียชีวิตหรือเป็นอันตรายแต่อย่างใด
ต่อมา น.ส.กมลชนก เข้าพบพนักงานสอบสวนและผู้เสียหาย โดยทั้งสองฝ่ายได้พูดจาตกลง เป็นการเข้าใจกัน ต่อหน้าพนักงานสอบสวน และผู้สื่อข่าว โดย น.ส.กมลชนก ยอมรับว่า ตนเองผิดที่ให้ข่าวไปจริงเพราะในตอนนั้นอยู่ในช่วงของความเสียใจ ต่อมาได้รับผลแจ้งผลการตรวจจาก สคบ. ที่ตั้งอยู่ในวิทยาลัยพยาบาลแพร่ ว่า ผลิตภัณฑ์บ้านแก้วใส (ว่านเสน่ห์หา) ของผู้ตายที่ใช้อยู่ไม่มีสารที่เป็นอันตรายเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของ เธอจึงขอโทษที่ได้ให้ข่าว ทำให้เกิดความเสียหายกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ด้วย เมื่อผู้แจ้งได้รับการขอโทษและไม่ได้ติดใจเอาความที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย ทั้งคู่จึงได้ลงบันทึกเป็นหลักฐาน ทำให้เรื่องดังกล่าวจึงจบอย่างสวยงาม