ศาลพัทยาพิพากษา พันตำรวจโท ศราวุธ บุญชัย พยานปากเอกคดีล้มประชุมอาเซียนซัมมิท พัทยา จำคุก 2 ปี 6 เดือน ชี้เป็นพยานเท็จ ฐานเบิกความเท็จใส่ความว่า พันตำรวจเอก สมพล รัฐกาญจน์ เป็นจำเลยในคดีล้มการประชุมอาเซียนซัมมิท พัทยา
ศาลจังหวัดพัทยา ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ พันตำรวจเอก สมพล รัฐกาญจน์ อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรไชยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ฟ้อง พันตำรวจโท ศราวุธ บุญชัย พนักงานสอบสวนคดีล้มการประชุมอาเซียนซัมมิท พัทยา ว่าเป็นพยานเท็จ เบิกความเท็จ จนทำให้ พันตำรวจเอกสมพล ตกเป็นจำเลยคดีบุกล้มการประชุมเอเซี่ยนซัมมิทที่พัทยาตั้งแต่ปี2552 ต่อสู้คดีมานานหลายปี จนศาลชั้นต้นยกฟ้อง พันตำรวจเอกสมพล เมื่อ 5 มีนาคม 2558 จนกระทั่ง พันตำรวจเอก สมพล ร้องทุกข์กับ สถานีตำรวจภูธรพัทยาว่า พันตำรวจโทศราวุธ พยานในคดีล้มการประชุมอาเซียน ว่าเป็นพยานเท็จ เนื่องจากมีพยานหลักฐานเป็นบันทึกประจำวันแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ว่าเวลาเดียวกับที่ถูกกล่าวหาว่าตนเองอยู่ที่พัทยานั้น พันตำรวจเอกสมพล แจ้งความนาฬิกาโรเล็กซ์หายอยู่ที่สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง เนื่องจากไม่มีบุคคลใดสามารถปรากฏกายได้ในสองสถานที่ในเวลาเดียวกันได้ อัยการจึงสั่งฟ้อง พันตำรวจโทศราวุธ เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดพัทยา โดยมีการนัดสืบพยานวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยจำเลยรับสารภาพ
ด้าน นายณัฐพล ปัญญาสูง ทนายความ กล่าวว่า ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ฐานแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน ต้องโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 1 หมื่นบาท และฐานเบิกความเท็จโทษจำคุก 3 ปี และปรับ 14,000 บาท จำเลยให้การสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิพากษา เหลือโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน และปรับ 12,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี รายงานคุมประพฤติ 1 ปี กำหนด 4 เดือนครั้ง บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง ซึ่งพยานปากนี้ เป็นพยานปากสำคัญในคดีพัทยา ยืนยันว่า จำเลยในคดี กล่าวหา 14 คน เมื่อผลว่าพยานนี้เท็จ ตนก็จะนำเข้าสู่ศาลเพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณา ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของศาล