ประเทศไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น มีพายุฝนฟ้า ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ทำให้เมื่อวานนี้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ
ที่จังหวัดสุรินทร์ อ.ศีขรภูมิ เกิดพายุฤดูร้อน ฝนตกหนักลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกในพื้นที่ 3 ตำบล ประกอบด้วย ตำบลนารุ่ง ตำบลตรึม และ ตำบลยาง รวมความเสียหายจำนวน 146 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้ได้รับความเสียหายหนักกว่า 50 หลังคาเรือน ต้นไม้โค่นล้มหลายต้น มีไฟฟ้าดับ ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาศีขรภูมิได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเรียบแล้ว และได้เกิดฟ้าผ่าลงที่ต้นมะพร้าวบ้านนายสินธิ์การะเกด ทำให้เกิดไฟไหม้กองฟางเสียหาย จึงได้ขอรถดับเพลิง อบต.ตรึม ช่วยดับไฟ
ขณะที่ พ.อ.อุทัย แสงกระโทก ผบ.ร.23 พัน3 รุดนำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมอุปกรณ์เลื่อยโซ่ รถบรรทุก หกล้อ และสิบล้อ ลงพื้นที่ตัดต้นมะขามเทศใหญ่ หลายคนโอบ อายุ กว่า 80 ปี ล้มทับยุ้งข้าวพังยับเยิน กู้ซากหลังคาสังกะสี ที่ลอยปลิวเกลื่อน ระดมกันตัดต้นไม้ใหญ่ ที่หักโค่นขวางถนนหนทาง เพื่อเคลียร์เส้นทาง เร่งซ่อมสร้างบ้านเรือน และสร้างที่พักชั่วคราวให้กับชาวบ้าน เพื่อให้มีที่พักผ่อนหลับนอนได้ในค่ำคืนนี้ ตลอดจนจัดชุด รปภ.ทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยง วัว ควาย อุปกรณ์ทางการเกษตร ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และ อส.
ขณะเดียวกัน นายเลิศบุศย์ กองทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับปกครองอำเภอศีขรภูมิ นำถุงยังชีพและสิ่งของเครื่องใช้อุปโภคบริโภคไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยพายุฤดูร้อนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบี้องต้น
สำหรับพื้นที่ที่มีความเสียหายมากที่สุดคือตำบลนารุ่ง บ้านเรือนเสียหาย 101 หลังคาเรือน มียุ้งข้าวเสียหาย 5 ยุ้งฉาง ทำให้พันธุ์ข้าวเสียหาย บางรายต้องนำข้าวมาตากแดดใหม่
ส่วนที่จังหวัด ศรีสะเกษ ที่บ้านคลองคำ-โคกแต้ หมู่ที่ 7 ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ //
พายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนประชาชนพังเสียหาย เสาเรือนหักโค่นและทำให้บ้านทั้งหลัง เสียหายทั้งหลังไม่สามารถที่จะซ่อมแซมได้ เจ้าของบ้านต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
ไปอาศัยบ้านเรือนของเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงพักอาศัยช่วงคราวก่อน
นายสุนัย ใจดี อายุ 67 ปี เจ้าของบ้าน เปิดเผยถึงวินาทีพายุพัดถล่มจนแทบเอาชีวิตไม่รอดว่า ขณะเกิดเหตุตนเองกำลังนั่งอยู่ในบ้าน ปรากฏว่า มีลมพัดกระโชกแรงมาก ทำให้บ้านโยกไปมา ด้วยความกลัวว่าบ้านจะพังลงมา จึงได้ตัดสินใจวิ่งหนีออกจากบ้านไปอาศัยอยู่บ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน ระหว่างนั้น ไม่นาน ก็มีฝนตกหนัก ประกอบกับลมพายุ ทำให้เสาบ้านหักพังทั้งหลัง
ซึ่งตนเองเก็บเงินไว้เป็นเวลาหลายสิบปีกว่าจะมีเงินสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นที่ซุกหัวนอนของตนกับครอบครัว เมื่อบ้านพังทั้งหลังก็ยังไม่รู้เลยว่า จะหาเงินที่ใดมาสร้างบ้านใหม่ คงจะต้องรอความเมตตาจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลือสร้างบ้านให้ใหม่ต่อไป
สำหรับความเสียหายจากเหตุวาตภัยพายุฤดูร้อน ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มีบ้านเรือนประชาชน ได้รับความเสียหายรวมจำนวนทั้งสิ้น 19 หลัง เสียหายพังยับเยินทั้งหลังจำนวน 1 หลัง
มาต่อที่จังหวัดน่าน ช่วงบ่ายของเมื่อวาน เกิดพายุลูกเห็บตกลงใส่บ้านเรือน ร้านค้า ตลอดจนรถยนต์ที่บ้านเก็ต และบ้านเหียะ ตำบลวรนคร อำเภอปัว จังหวัดน่าน โดยลูกเห็บขนาดเท่าหัวแม่มือตกลงมาเป็นบริเวณกว้างเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ทำให้ชาวบ้านและผู้ใช้รถใช้ถนนสายปัว-อวน พากันตกใจหลบกันชุลมุน ทั้งนี้ก่อนหน้าสภาพอากาศร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวัด หลังเกิดพายุลูกเห็บก็เป็นการไล่ลมร้อนไปทำให้อากาศกลับมาเย็นลงบ้าง
ชาวบ้านบ้านเก็ตกล่าวว่า การเกิดพายุลูกเห็บดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกของปี โชคดีที่ลูกเห็บมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็มีปริมาณมากพอสมควร จึงไม่ได้รับความเสียหาย
สำหรับช่วงนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ ประเทศไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ แต่วันพรุ่งนี้ พายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นบริเวณภาคเหนือ และภาคกลาง มีแนวโน้มลดลง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ยังคงมีต่อเนื่องในระยะนี้