“อาตมาไม่ได้เมาเหล้านะโยม! หลวงพี่แค่เมากาแฟเฉยๆ” คำพูดจากหลวงพี่อายุ 47 ปีที่วัดสิงหล อ.เมืองลพบุรี หลังชาวบ้านแจ้งว่าพบพระภิกษุลักษณะคล้ายเมาสุราภายในกุฏิ ก่อนทางตำรวจภูธรเมืองลพบุรี ไปตรวจสอบพบขวดเครื่องดื่มชูกำลังผสมแอลกอฮอล์ แถมเจอกับแกล้มในลังโฟมอื้อ
เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ 191 จ.ลพบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ และฝ่ายปกครองพร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางไปยังกุฏิวัดสิงหล ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี โดยเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าประตูกุฏิปิดอยู่จึงเคาะประตูเรียก ก่อนที่ พระวินัย สุวีโร อายุ 47 ปี ชาว ต.โนนป่าซาง อ.ผาขาว จ.เลย เจอเจ้าหน้าที่ถึงกับลุกลี้ลุกลนและหน้าถอดสี เพราะอยู่ในลักษณะคล้ายเมาสุรา
จากการตรวจค้นและสอบถามว่าหลวงพี่เมาหรือไม่ แต่ได้รับการปฏิเสธว่าไม่ได้เมา! เจ้าหน้าที่ได้พยายามเค้นเพื่อสอบถามความจริงจนได้รับคำตอบว่า “หลวงพี่เมากาแฟ กินครั้งละ 3 ซอง ต้มใส่หม้อผสมกับข้าว วันนี้ฉันมาแล้ว 3 ครั้ง” เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า มีขวดเครื่องดื่มชูกำลังขนาด 150 ซีซี. ยี่ห้อหนึ่งที่มีแอลกอฮอล์ผสมซุกซ่อนอยู่ และยังมีกับแกล้มหลายชนิดรวมทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปวางกระจายอยู่ภายในกุฏิ อีกทั้งยังพบอาวุธมีดและขวานซุกซ่อนอยู่ใต้ที่นอน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้ ซึ่งจากการสอบถามว่า มีดกับขวานเอามาทำไม พระวินัย อ้างว่า มีญาติโยมนำมาถวาย
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามหลายครั้งว่าหลวงพี่เมาอะไรแน่ ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า “เมากาแฟ” สักครู่ชาวบ้านได้ลงไปข้างกุฏินำขวดเครื่องดื่มชูกำลังขนาด 150 ซีซี กว่า 10 ขวดที่เพิ่งทิ้งลงในคูน้ำขึ้นมาให้ดู พระวินัย ถึงกับจำนนต่อหลักฐาน รับสารภาพว่าเมาเครื่องดื่มชูกำลังที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ไปหลายขวดจริง ซึ่งเมื่อชาวบ้านลงไปดูในคูน้ำข้างกุฏิพบเครื่องดื่มชูกำลังชนิดนี้ลอยอยู่เต็มคูน้ำ จึงได้นำตัว พระวินัย ไปเพื่อตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายในสภาพเดินโซซัดโซเซ ก่อนนำตัวไปสึกที่วัดป่าธรรมโสภณ อ.เมืองลพบุรี และได้ส่งกลับภูมิลำเนาไม่ให้อยู่ในพื้นที่ต่อไป