เงินสงเคราะห์ค่าทำศพผู้สูงอายุ นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุคส่วนตัว โดยระบุว่า เงินสงเคราะห์ค่าทำศพผู้สูงอายุ รายละ 3,000 บาท ของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ มีผลบังคับใช้แล้ว
ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรื่อง การสนับสนุนเงินสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณีแก่ผู้สูงอายุ รายละ 3,000 บาท โดยมีเงื่อนไขดังนี้
1.ผู้สูงอายุที่เสียชีวิต ต้องเข้าหลักเกณฑ์ดังนี้
-อายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีสัญชาติไทย
-ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กรณีไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์หรือไม่ได้ลงทะเบียน ให้ผู้อำนวยการเขต หรือนายอำเภอ หรือกำนัน หรือผู้ใหญ่บ้าน หรือนายกองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ ประธานชุมชน เป็นผู้ออกหนังสือรับรอง ตามแบบที่อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุกำหนด
2.สถานที่ยื่นคำขอและเอกสารที่ใช้
1)ติดต่อท้องที่ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือภูมิลำเนา ในขณะเสียชีวิต
-กรุงเทพมหานคร ติดต่อที่สำนักงานเขต
-จังหวัดอื่น ติดต่อที่สำนักงานพัฒนาสังคมฯ จังหวัด หรืออำเภอ หรือสำนักงานเทศบาล หรือที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล หรือศาลาว่าการเมืองพัทยา
2)จะต้องยื่นคำขอภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ออกใบมรณบัตร พร้อมเอกสารและหลักฐานดังนี้
-ใบมรณบัตรของผู้สูงอายุ
-บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้สูงอายุ หรือหนังสือรับรองหากผู้เสียชีวิตเข้าเกณฑ์แต่ไม่มีบัตร
-บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายและเลขประจําตัวประชาชนของผู้ยื่นคําขอ ส่วนกรณีการจัดการศพตามประเพณีโดยมูลนิธิ สมาคม วัด มัสยิด โบสถ์ ให้แนบหนังสือแสดงการจดทะเบียน หรืออนุญาตให้สร้าง จัดตั้ง หรือดำเนินงานมูลนิธิ สมาคม วัด มัสยิด โบสถ์ด้วย
-สมุดบัญชีธนาคารของผู้ยื่นคำขอ
-หนังสือรับรองเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการศพ
ทั้งนี้ สิทธิการรับเงินสงเคราะห์จัดการศพนี้ ให้รวมถึงผู้สูงอายุที่อยู่ในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์ สถานดูแล สถานคุ้มครอง หรือสถานใดๆ ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจัดการศพตามประเพณี โดยมูลนิธิ สมาคมวัด มัสยิด โบสถ์