คลินิกความงาม อยากสวยต้องรอก่อน! ศบค.ไม่อนุญาตเปิดให้บริการ 3 พ.ค.นี้ แต่เตรียมพิจารณาในเฟสต่อไป ยันเปิดขายแอลกอฮอล์ได้ หากมั่วสุมเป็นอำนาจผู้ว่าสั่งปิดได้
เมื่อวันที่ 2 พ.ค. พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลางของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯในเดือนเม.ย.เป็นมาตรการเคร่งครัด เพื่อให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการดำเนินชีวิต และเกิดผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่างๆ สำหรับพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯฉบับต่อมามีการผ่อนปรนตั้งแต่ 3 พ.ค. จะมีการประเมินอย่างน้อย 14 วัน ซึ่งจะยึดมาตรฐานด้านสาธารณสุขเป็นหลัก ส่วนจะผ่อนปรนมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับประชาชนให้ความร่วมมือ
พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้งนั้น มีคำถามว่า ทำไม กีฬาเทนนิส กอล์ฟ ทำได้ แต่แบดมินตันทำไม่ได้ เนื่องจากกีฬาในสถานที่โล่งแจ้ง มีการถ่ายเทอากาศสะดวก มีโอกาสน้อยในการติดเชื้อ ส่วนสถานบริการเกี่ยวกับสัตว์เปิดให้บริการได้ เพราะไม่มีข้อมูลว่ามีการติดเชื้อระหว่างคนกับสัตว์ พร้อมย้ำว่าภายใต้มาตรการผ่อนคลายยังคงมาตรการบังคับอยู่คือ ช่วงเวลาเคอร์ฟิว การจำกัดการเคลื่อนย้ายขอประชาชน แต่หากมีสิ่งบ่งชี้ว่าสถานการณ์ดีขึ้นจะมีการพิจารณาเปิดการผ่อนปรนในระยะต่อไป
พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะที่สถาบันความงามและคลินิกทุกแห่ง ยังไม่อนุญาตให้เปิดให้บริการ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต เนื่องจากว่า การทำกิจกรรม เช่น โบท็อกซ์ ศัลยกรรม เสริมความงาม ต้องต้องใช้เวลาพอสมควร เสี่ยงต่อการติดโรค ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับ ดังนั้นคลินิกเสริมความงามจะต้องนำไปหารืออีกครั้งว่าจะเปิดในเฟส 2 หรือ 3 ต่อไป
ส่วนการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ร้านค้าที่มีใบอนุญาตสามารถเปิดขายได้ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. แต่ยังคงเป็นอำนาจของผู้ว่ากทม. และผู้ว่าราชการจังหวัด หาก พบว่าในพื้นที่มีการละเมิด สามารถสั่งปิดในภายหลังได้ แต่ขั้นต้นอนุญาตร้านค้าที่มีใบอนุญาต แต่หากมีการมั่วสุมสามารถจับกุมหรือดำเนินคดีได้ ดังนั้นขอความร่วมมือจากประชาชน เช่น กลับไปอยู่ที่บ้านขอให้ดื่มพอสมควร