นักร้อง BNK48 จำนวน 8 คน ร่วมเปิดตัวสถานีวิทยุเพื่อครอบครัว ของกรมประชาสัมพันธ์ ตามแนวทางของพลเอกประยุทธ์ ที่มอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์ มีสถานีวิทยุสำหรับครอบครัวและเน้นเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีจะได้ร่วมจัดรายการวิทยุ พูดคุยในรายการด้วย
ในระหว่างเปิดตัวสถานีวิทยุ happy family FM 105 เมกะเฮิร์ต พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. ได้พบกับสมาชิก BNK48 ทั้ง 8 คน ที่มาร่วมประชาสัมพันธ์งาน โดยสอบถามและพูดคุยถึงกิจกรรมที่สร้างสรรค์ของเยาวชน ซึ่งเป็นแบบอย่าง หรือ ไอดอล ที่วัยรุ่นชื่นชอบ พร้อมร่วมกิจกรรมจับมือสมาชิก BNK48 เป็นเวลา 8 วินาที เป็นกรณีพิเศษ โดยไม่ต้องซื้อบัตรจับมือ และ ถ่ายภาพร่วมกันในท่าเฉพาะของสมาชิก (จิ้มแก้ม) อย่างเป็นกันเอง พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังโชว์ลีลาร่วมเต้นท่าปั้นข้าว ซึ่งเป็นท่าเต้นยอดฮิตเพลงคุกกี้เสี่ยงทายด้วย
BNK 48 กล่าวภายหลังเข้าพบนายกรัฐว่า นายกรัฐมนตรีใจดีและบรรยกาศนั้นดีมาก เป็นครั้งแรกที่มาที่ทำเนียบรัฐบาล การเจอนายกรัฐมนตรีครั้งแรกในวันนี้ก็เหมือนในโทรทัศน์แต่ตัวจริงตัวใหญ่กว่า ใจดีกว่าที่คิดไว้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอให้พวกเราพัฒนาตนเอง อีกทั้งพวกเราจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีกับน้องๆ พร้อมให้มุ่งมั่นทำในสิ่งที่อยากทำ พร้อมขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรีเพราะท่านทำงานหนัก เพื่อให้เดินหน้าประเทศไทยต่อไป พร้อมเชื่อว่าสิ่งที่นายกฯ ทำอยู่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและจะเกิดการเเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า วันนี้มีการเสนอต่อที่ประชุม ครม. ในการโยกย้ายตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด โดยปลัดกระทรวงมหาดไทยดำเนินการปรับเป็นเพื่อความเหมาะสมในการปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งมีจำนวนไม่มาก
และมีการเสนอขอความเห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท.รวมถึงกฎหมายการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น มีรายงานว่าแก้ให้เพิ่มบทบัญญัติการไม่เป็นผู้มีพฤติกรรมในทางทุจริต เช่น เป็นบุคคลล้มละลาย ถูกยึดทรัพย์ข้อหาร่ำรวยผิดปกติ เคยต้องคำพิพากษา หรือเป็นคู่สัญญารัฐทั้งทางตรงและทางอ้อมจะหมดสิทธิ์ในการลงเลือกตั้งซึ่งหากผู้สมัครรู้ว่าขาดคุณสมบัติแต่ยังลงสมัครจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1–10 ปี หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีสิทธิ์สั่งให้พ้นจากตำแหน่งได้
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินโครงการไทยนิยมยังยืนนั้นเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่ครั้งที่ 3 เรียบร้อยแล้ว โดยจะวิเคราะห์ประมวลความต้องการของประชาชนให้รอบคอบถี่ถ้วนว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร โดยยืนยันว่าจะเปิดให้ทุกส่วนร่วมพิจารณาทั้งภาคเอกชนและภาคการศึกษาในพื้นที่พิจารณาความเหมาะสมโดยเน้นเรื่องการการสร้างรายได้ให้กับประชาชน เนื่องจากในการลง พื้นที่ครั้งต่อไปจะเป็นการชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการต่อประชาชน ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดสรรงบประมาณ