สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ทยอยกู้เงินเพื่อ เงินเยียวยาเกษตรกร จ่ายให้เกษตรกรประมาณเดือนละ 50,000 ล้านบาท
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สบน. ระบุว่า ในสัปดาห์นี้จะเริ่มทยอยกู้เงินตาม พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในกลุ่มเกษตรกร ซึ่งคณะรัฐมนตรี มีมติให้จ่ายให้คนละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน รวมเป็น 15,000 บาท จำนวน 10 ล้านครัวเรือน โดยจะทยอยกู้เงินเพื่อจ่ายให้เกษตรกรประมาณเดือนละ 50,000 ล้านบาท โดยจะเป็นการกู้ระยะสั้นในประเทศจากธนาคารพาณิชย์ ผ่านการออกตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 1 ปี
ส่วนการกู้เพื่อจ่ายเงินเยียวยาให้กับแรงงานนอกระบบ เบื้องต้นจะกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์วงเงิน 70, 000 ล้านบาท ผ่านการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน อายุ 4 ปี แม้ว่าจำนวนผู้ที่เข้าข่ายที่จะได้รับเงินช่วยเหลือจะเพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านคน จากเดิม 14 ล้านคน เนื่องจากมีงบฉุกเฉินภายใต้อำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 45,000 ล้านบาทที่สามารถนำมาสมทบจ่ายได้อีก
สำหรับโครงสร้างการกู้เงิน 1 ล้านล้านบาทนั้น สบน.พยายามใช้แหล่งเงินกู้ที่หลากหลาย ทั้งการกู้ในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อกระจายแหล่งเงินกู้ โดยจะมีการกู้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวโดยพันธบัตรรัฐบาลนั้นกำลังอยู่ในช่วงพิจารณาขนาดของวงเงินที่จะออกให้เหมาะสมกับตลาด รวมถึงอายุของพันธบัตรด้วย เพราะตอนนี้ตลาดไม่ได้ต้องการพันธบัตรระยะยาว เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง
ทั้งนี้แม้รัฐบาลจะกู้ยืมเงินตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท โดยในปีงบประมาณนี้ จะกู้เงิน 600,000 ล้านบาท ที่เหลืออีก 400,000 ล้านบาท รัฐบาลมีแผนจะกู้ในปีงบประมาณ2564 จากการคาดการณ์พบว่า ณ สิ้นปีงบประมาณ 2563 รัฐบาลจะมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 51.84% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
ส่วนปี 2564 หากกู้เงินส่วนที่เหลือรวมกับแผนการก่อหนี้เดิมในปีงบประมาณ 2564 แล้ว จะมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 57.96% ของจีดีพี ซึ่งยังไม่เกินกรอบวินัยการเงินการคลัง ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 60 % ของจีดีพี