กรณี ทราเวลบับเบิ้ล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ถ้าประเทศไทยยังไม่เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาหรือยังไม่สามารถเริ่มต้นมาตรการจับคู่ประเทศที่ควบคุมการติดเชื้อโควิด-19ได้ดีเพื่อทำการท่องเที่ยวแบบจำกัด หรือ ทราเวล บับเบิ้ล (Travel Bubble) จนถึงสิ้นปี 2563 โรงแรมในไทยจะต้องปิดตัวถาวรถึง 60%
ไทม์ไลน์ผู้ ติดเชื้อโควิดวันนี้ คนไทย 1 ราย กลับจากญี่ปุ่น ดับฝันจับคู่ ทราเวลบับเบิ้ล
หมอธีระ เตือน! ทราเวลบับเบิ้ล เป็นความเสี่ยงสูงสุด เหตุ โควิด19 ติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 10 ล้าน
ทั้งนี้ คิดตามสัดส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หากตลอดปีนี้มีเพียง 40% โรงแรมในไทยก็อยู่รอดได้แค่ 40% ส่วนอีก 60% อย่างไรก็ไม่รอด จึงเป็นเหตุผลที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พยายามผลักดันมาตรการทราเวล บับเบิ้ล ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างช้าเดือนก.ย.นี้ ส่วนกรณีที่ความเห็นของแต่ละหน่วยงานยังเห็นไม่ตรงกัน ในที่สุดคนที่ต้องตัดสินใจคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าจะเอาเรื่องเศรษฐกิจหรือความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ในพรรคภูมิใจไทยด้วยกันที่มีรัฐมนตรีกำกับดูแลกระทรวงท่องเที่ยวฯ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุข แต่กลับมีความเห็นไม่ตรงกันว่าควรเริ่มต้นทำทราเวล บับเบิ้ลนั้น ตนเองมองว่าความเห็นไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน อาทิ บริษัทมีทั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) และมีประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน (ซีเอฟโอ) หากซีอีโอและซีเอฟโอเห็นไปทางเดียวกันบริษัทก็น็อค ทั้งสองฝ่ายต้องเห็นสวนทางกันตลอดเวลา เพื่อให้มีการบริหารทั้งรับและรุก
แต่สุดท้ายก็อยู่ที่นายกรัฐมนตรีจะเลือกอะไร เนื่องจากหากเศรษฐกิจของประเทศตกลงไปลึกมากๆ สุดท้ายจะรอดหรือไม่ แต่ถ้ามีการพยุงรอการกลับมาไม่ให้เศรษฐกิจตกลงไปลึกที่สุด น่าจะดีกว่า ดังนั้น ในความเห็นของตน เห็นว่าจะต้องเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาบ้าง เพื่อพยุงเศรษฐกิจเอาไว้
ในส่วนของ การสร้างความปลอดภัยให้มากที่สุดสำหรับการทำทราเวล บับเบิ้ล การบินเข้าประเทศไทยต้องเป็นลักษณะของเครื่องบินเช่าเหมาลำ หากมาต่อสายการบินในประเทศก็ต้องเหมาลำไปเลย และจำกัดอยู่ในพื้นที่จังหวัดที่กำหนดเท่านั้น เช่น อยู่ในเกาะภูเก็ตเท่านั้น หรือหากเป็น จ.สุราษฎร์ธานี ก็อยู่และข้ามไปมาได้เฉพาะ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะนางยวน หรือ จ.กระบี่ เฉพาะเกาะพีพี โดยก่อนเข้ามาและเมื่อมาถึงไทยต้องทำการตรวจโควิด-19 แต่หากอยู่ถึง 14 วันให้เดินทางไปจังหวัดอื่นๆ ได้เหมือนชาวต่างชาติที่อยู่ในไทย ซึ่งในช่วงปลายปีมีชาวต่างชาติในยุโรปและอเมริกา มักหนีความหนาวเข้ามาพักผ่อนในไทยอยู่แล้วและมักจะอยู่กันนาน
ศบค. เปิดเงื่อนไขก่อนผ่อนปรน ชาวต่างชาติ เข้าไทย ให้ปลอดภัยจาก โควิด19
อนึ่ง ในปี 2562 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยว 3.01 ล้านล้านบาท คิดเป็น 18% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี ส่วนในปี 2563 คงมีสัดส่วน 6-7% ของจีดีพีเท่านั้น หากพยายามทำรายได้ท่องเที่ยวให้ได้ 1.23 ล้านล้านบาท แต่ลำพังแค่คนไทยเที่ยวในประเทศ สูงสุดตลอดทั้งปีนี้จะสร้างรายได้ 700,000 ล้านบาท เมื่อไปรวมกับรายได้สะสมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อต้นปี 310,000 ล้านบาท จะทำให้มีรายได้รวม 1.01 ล้านล้านบาท ฉะนั้น การไปให้ถึง 1.23 ล้านล้านบาทได้ ต้องเปิดประเทศทำทราเวล บับเบิ้ล ตั้งแต่ก.ย.-ธ.ค. เพื่อสร้างรายได้อีกอย่างน้อย 200,000 ล้านบาทจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ