เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้เปิดการแถลงข่าวร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่องเตรียมนำเข้าวัคซีนโควิดของบริษัทซิโนฟาร์ม
ศ.นพ.นิธิ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 ที่ยังทวีความรุนแรงต่อเนื่อง ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในฐานะหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี จึงเล็งเห็นความสำคัญเรื่องการกระจายวัคซีน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้เร็วที่สุด
ก่อนหน้านี้ ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีให้เป็น “ตัวแทน” ประเทศไทยในการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้แก่ประชาชน โดยได้ร่วมมือกับ อย. และกระทรวงสาธารณสุข ติดต่อขอซื้อจากซิโนฟาร์มโดยตรง และให้บริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด เป็นผู้นำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์ม ตั้งแต่การยื่นเอกสารขออนุญาตจาก อย. ตลอดจนการขนส่งวัคซีน ซึ่งในเวลานี้ วัคซีน “ซิโนฟาร์ม” เป็นวัคซีนที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ให้การรับรองแล้วสามารถฉีดได้ตั้งแต่กลุ่มผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจนถึงผู้สูงอายุโดยไม่มีข้อบ่งชี้ที่จำกัดเรื่องอายุ
เบื้องต้น คาดว่าจะนำเข้ามาราว 1 ล้านโดส ภายในเดือนมิถุนายน ส่วนในเดือนต่อ ๆไปอาจให้บริษัท ไบโอจีนีเทค หารือและต่อรองกับบริษัทผู้ผลิตต้นทางอีกทีหนึ่ง ส่วนเรื่องราคาวัคซีนซิโนฟาร์ม ขณะนี้กำลังตกลงกันอยู่ เนื่องจากต้องคำนวณจากราคาต้นทุนและอีกหลายอย่าง แต่ขอยืนยันว่าราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ไม่ค้ากำไรแน่นอน
ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้เน้นย้ำว่า วัคซีนซิโนฟาร์ม เป็นวัคซีนทางเลือก ไม่เกี่ยวกับวัคซีนที่รัฐบาลจัดให้ประชาชนฉีดฟรี เนื่องจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จัดหามาด้วยงบของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นอกจากนี้วัคซีนซิโนฟาร์มยังได้รวมค่าประกันกับราคาที่ขายออกไปแล้ว เบื้องต้นมีเอกชนมาติดต่อแล้ว หลักๆ ได้แก่ สภาอุตสาหกรรม บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน
นอกจากนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ก็มีแผนหาวัคซีนป้องกันโควิดตัวอื่นเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อนำมาศึกษาและทำการวิจัยว่าวัคซีนตัวไหนเหมาะสำหรับเชื้อที่ระบาดในไทยมากที่สุดด้วย