TDRI แนะ 5 มาตรการสู้ โควิด-19 ต้องช่วยเหลือประชาชนให้ครอบคลุม และตรงจุด

วันที่ 23 มีนาคม 2563 สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เสนอวิธีการแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 ว่าคณะนักวิชาการจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ซึ่งได้ติดตามปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาด้วยความเป็นห่วง มีความเห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยอาจเข้าสู่ขั้นวิกฤติ เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วต่อไปอีก จนอาจจะเกินกว่าขีดที่ระบบสาธารณสุขของประเทศจะสามารถรองรับได้ ซึ่งจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหลายพันหรือมากกว่าในอีกไม่นาน ดังที่เกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศ

เพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นจากการเสียชีวิต และการเจ็บป่วยของประชาชน ตลอดจนลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจของประชาชนจากภาวะการว่างงานที่เกิดขึ้น จากทั้งการแพร่ระบาดของโรค และมาตรการของรัฐเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น ปัญหาความยากจนหรือปัญหาอาชญากรรมในวงกว้าง เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการดังต่อไปนี้

รัฐบาลควรกำหนดเป้าหมายสูงสุดในการป้องกันการแพร่กระจายของโรค และลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยจัดสรรทรัพยากรให้อย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นกรอง ติดตามและคัดแยกผู้ติดเชื้อ ซึ่งกำลังกระจายตัวไปในวงกว้างทั่วประเทศ และการรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง ให้มียารักษาโรคและอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างเพียงพอ ตลอดจนให้เบี้ยเลี้ยงพิเศษ และประกันชีวิตและประกันสุขภาพให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ต้องห่วงฐานะการคลังและการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้น เพราะสุขภาพของประชาชนย่อมมีความสำคัญกว่า

รัฐบาลควรมุ่งให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยและตกงาน อย่างไม่ตกหล่น และรวดเร็วพอที่จะสามารถแก้ความเดือนร้อนเฉพาะหน้าได้
ทั้งนี้ กองทุนประกันสังคมจะขยายความคุ้มครองแก่ผู้ประกันตน ในส่วนของการประกันการว่างงาน ให้ครอบคลุมถึงการเกิดโรคระบาด ทั้งกรณีนายจ้างไม่ให้ทำงานและกรณีภาครัฐมีคำสั่งให้หยุดกิจการชั่วคราว มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการที่ตรงจุดในการช่วยเหลือคนว่างงาน แต่ยังไม่ครอบคลุมแรงงานที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด เพราะมีแรงงานที่ยังไม่ได้เข้าสู่การประกันการว่างงานในระบบประกันสังคม (ซึ่งรวมถึงผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 และแรงงานที่มีรายได้รายวันอาทิ คนขับแท็กซี่) ถึงร้อยละ 70 ของแรงงานทั้งหมด

ดังนั้น รัฐบาลจึงควรเพิ่มการให้ความช่วยเหลือแรงงานที่ยังไม่ได้เข้าสู่การประกันการว่างงานในระบบประกันสังคม ตามขั้นตอนดังนี้

1) ให้ประชาชนไทยทุกครอบครัว อยู่ในข่ายเบื้องต้นที่จะได้รับการเงินช่วยเหลือตามจำนวนสมาชิกในครัวเรือน เช่น สมาชิกในครัวเรือน 1-2 คน ได้เงินช่วยเหลือ 1,500 บาทต่อเดือน, 3-4 คนได้ 2,500 บาทต่อเดือน จากนั้นให้เพิ่มอีกคนละ 500 บาทต่อสมาชิกแต่ละคนที่มากกว่า 4 คน ขั้นต้นเป็นเวลา 3 เดือน
2) กระทรวงการคลังตรวจสอบทุกคนในแต่ละครัวเรือน โดยเปรียบเทียบกับฐานข้อมูล 26 ฐานที่ใช้ทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อตัดครัวเรือนที่ไม่ควรได้รับความช่วยเหลือออกไป ตามเกณฑ์ที่กำหนดขึ้น เช่น ครัวเรือนที่มีบ้านหรือที่ดินเป็นของตนเองมูลค่าประเมินเกินกว่า 3 ล้านบาท มีเงินฝากรวมกันเกิน 100,000 บาท หรือมีเงินเดือนเฉลี่ยต่อคนเกินกว่า 15,000 บาท ซึ่งอาจจะทำให้เหลือครัวเรือนที่อยู่ในข่ายรับความช่วยเหลือประมาณ 6-7 ล้านครัวเรือน
3) ตัดลดเงินช่วยเหลือตาม ลง ตามจำนวนสมาชิกของครัวเรือนที่ได้รับความช่วยเหลือในส่วนการประกันการว่างงาน จากกองทุนประกันสังคมแล้ว

เหตุที่เราไม่ได้เสนอให้ใช้ฐานข้อมูลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นหลักตั้งแต่แรก เนื่องจากฐานข้อมูลดังกล่าวยังต้องพัฒนาให้ครอบคลุมมากขึ้น ดังผลการศึกษาที่พบว่า มีผู้มีรายได้น้อยที่ตกหล่นจากฐานข้อมูลดังกล่าวถึงร้อยละ 64 หรือกว่า 4-5 ล้านคน

การให้ความช่วยเหลือตามข้อเสนอของเราอาจทำให้มีผู้ได้รับความช่วยเหลือโดยไม่สมควรไปบ้าง แต่ความผิดพลาดดังกล่าวน่าจะมีต้นทุนทางสังคมต่ำกว่าการไม่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้สมควรได้รับความช่วยเหลือ หากยึดตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งนี้ รัฐและสังคมควรสื่อสารให้ผู้ที่ไม่เดือดร้อนไม่ใช้สิทธิในการรับความช่วยเหลือดังกล่าวในช่วงวิกฤติเช่นนี้รัฐบาลควรพิจารณาให้ความช่วยเหลือเพื่อป้องกันการเลิกจ้างงาน โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือแก่ธุรกิจขนาดเล็กเป็นหลัก เนื่องจากเป็นแหล่งจ้างแรงงานในกลุ่มเสี่ยงจำนวนมาก โดยอุดหนุนค่าเช่าสถานที่ และค่าจ้างแรงงานบางส่วน

รัฐบาลควรยกเลิกมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ไม่ตรงจุด หรือซ้ำซ้อน เมื่อได้ให้ความช่วยเหลือตามข้อเสนอข้างต้นแล้ว อาทิ การลดค่าสาธารณูปโภคเช่น ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ทั้งผู้ได้รับความเดือดร้อนและไม่ได้รับความเดือดร้อนแบบหว่านแหในปัจจุบัน

รัฐบาลควรดำเนินมาตการในช่วงวิกฤติการณ์นี้โดยไม่ประมาท ไม่ตายใจหากตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ในบางวันลดลง โดยดำเนินการอย่างเป็นระบบในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่บริหารราชการแผ่นดินเหมือนในสภาวะปรกติ เช่น ควรพร้อมประชุม ครม. แม้กระทั่งในวันหยุดหรือนอกเวลาราชการ และควรสื่อสารกับประชาชนอย่างครบถ้วน ชัดเจนและตรงไปตรงมา เพื่อฟื้นฟูความเชื่อถือจากประชาชน และทำให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับมาตรการของรัฐ

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

เหล่า K-pop บุกชาร์ตเพลง Circle Chart ประจำรายเดือน-รายสัปดาห์

คนฮอตของเดือนเมษายนสุดร้อนแรงนี้! จะมาเปิดเผยอันดับชาร์ตรายเดือนและรายสัปดาห์ล่าสุด! ของชาร์ต Circle Chart สุดโหดเกาหลีใต้

“วอนฮี ILLIT” พรีเซ็นเตอร์เครื่องดื่มสุดฮิต ที่พร้อมมาทำให้ซัมเมอร์จี๊ดจ๊าด!

เอาแล้วไงสดใสจนได้งานเข้ามารัว ๆ สำหรับสาวสวย “วอนฮี ILLIT” ที่ได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เครื่องดื่มสุดฮิต “Pocari Sweat”

กัมพูชา เคลมอีก! ลาบูบู้ LABUBU แท้จริงมาจากตำนานของพี่เขา

ชาวเน็ตกัมพูชา ไม่ตกกระแส! แห่ตามเคลม “ลาบูบู้ LABUBU” มาจากรูปแกะสลักปีศาจ “หน้ากาล” วัฒนธรรมของกัมพูชา ไม่เชื่อ! เจอได้ตามทางเข้าวัด

สคบ.เตือนภัย ‘พัดลมคล้องคอ’ อันตราย ใช้ไปนาน ๆ เสี่ยงโรคมะเร็ง

หยุดใช้ดีที่สุด! สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เตือน ‘พัดลมคล้องคอ’ มีตะกั่วเข้มข้นเป็นอันตรายต่อผิวหนังเสี่ยงเป็นมะเร็งสูง

ครั้งนี้ไม่ยอม! เจนนี่ รัชนก ถูกคนใกล้ตัวในคราบโจร ขโมยเงินครึ่งล้าน

ไม่ยอม! เจนนี่ รัชนก ถูกคนใกล้ตัวในคราบโจร ขโมยเงินในบ้านจำนวนครึ่งล้าน ลั่น ถ้ายังไม่คืนรู้เรื่องแน่

ป่วยนับสิบ! คนสุพรรณ ติดเชื้อไวรัสโรต้า หลังร่วมปาร์ตี้โฟมสงกรานต์

ปาร์ตี้โฟมสงกรานต์ เป็นเหตุ! ทำคนสุพรรณ ติดเชื้อไวรัสโรต้า หามตัวส่ง รพ. กว่า 50 ชีวิต พบมีอาการ มีไข้ ปวดท้อง อาเจียน และท้องเสีย
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า