กรมบังคับคดี ชี้แจง กรณีตามที่มีข่าวเรื่องถูกยึดที่ดินขายทอดตลาดจากหนี้ซื้อโทรศัพท์ มือถือ กล่าวถึง นางสุรีพร ศรีทอง ได้ซื้อโทรศัพท์มือถือในปี ๒๕๕๙ แต่ไม่ได้ผ่อนชำระตามกำหนด เป็นเหตุให้ร้านมือถือฟ้องร้องบังคับคดี และได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นที่ดินมรดกของครอบครัวออกขายทอดตลาดชำระหนี้ จึงต้องการซื้อทรัพย์ดังกล่าวคืนจากผู้ซื้อในราคาที่เป็นธรรม กรณีดังกล่าวอยู่ในการดำเนินการของสำนักงานบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก
โดยโจทก์ได้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยและผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมในอำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ตามหมายบังคับคดี
ซึ่งปัจจุบันผู้ซื้อได้ชำระราคาค่าซื้อทรัพย์ครบถ้วนและรับหนังสือโอนกรรมสิทธิ์ไปจากเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้วในการบังคับคดีดังกล่าวเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด และได้แจ้งให้จำเลยและผู้ถือกรรมสิทธิ์ทราบในทุกขั้นตอนตั้งแต่การยึดทรัพย์จนถึงการขายทอดตลาด
ซึ่งจำเลยและผู้ถือกรรมสิทธิ์ไม่ได้โต้แย้งการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดีแต่อย่างใด เพียงแต่จำเลยและผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมมีความประสงค์ที่จะขอซื้อทรัพย์ดังกล่าวคืนจากผู้ซื้อเท่านั้น ทั้งนี้ ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้น กรมบังคับคดีพร้อมที่จะช่วยเหลือในการนัดหมาย ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป
สำหรับ นางสุรีพร ศรีทอง ก่อนหน้านี้ได้ซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหนึ่ง ราคาประมาณ 35,428 บาท ในช่วงปี สิงหาคมปี 2559 โดยได้ดาวน์เงิน 8,500 บาท เหลือค้างชำระ 26,928 บาท จากนั้นก่อนผ่อนส่งได้ 2 งวด เป็นจำนวนเงิน 2,496 บาท ก่อนที่จะขาดส่งเงิน 16 งวด จนถูกร้านมือถือฟ้องร้อง และกรมบังคับคดีนำที่ดินไปขายให้บุคคลที่ 3 ในราคา 4 แสนบาท จำนวน 4 ไร่ เป็นเงิน 1.6 ล้านบาท