วันที่ 31 มีนาคม 2563 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
“การสัมภาษณ์ นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เกิดขึ้นในเย็นของวันที่ 27 มีนาคม 2563
ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดและในกรณีที่ดีที่สุด เวลานี้หลายคนคงอยู่รู้ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดจะเป็นอย่างไร นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า แบ่งเป็น 3 ฉากทัศน์ (scenario) ในกรณีเลวร้ายที่สุดตัวเลขไม่ต่างจากประเทศอื่นๆ ที่มีการคาดการณ์ว่า จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อประมาณร้อยละ 50 ถึง 70 ในส่วนของประเทศไทยคาดการณ์ไว้ที่ประมาณร้อยละ 50 นี่คือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่ไม่มีใครทำอะไรเลยและปล่อยให้การแพร่ระบาดเป็นไปตามธรรมชาติ เมื่อดูในรายละเอียด ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดของประเทศไทยจะมีผู้ติดเชื้อ 37 ล้านคนภายในปีเดียว
กรณีระดับกลางจะมีผู้ติดเชื้อประมาณ 21 ล้านคน โดยปีแรกมี 7 ล้านคน และปีที่ 2 อีก 14 ล้านคน และในกรณีที่ดีที่สุด 2 ปีรวมกันจะมีผู้ติดเชื้อประมาณ 9 แสนคน โดยปีแรกอาจมีผู้ติดเชื้อประมาณ 20,000 คน ปีหน้าอีกประมาณ 880,000 คน
ซึ่งจากตัวเลขขณะนี้ นพ.ธนรักษ์ เห็นว่าในกรณีที่ดีที่สุดดังกล่าวน่าจะมีโอกาสที่จะเป็นไปได้ค่อนข้างน้อย ขณะที่ตัวเลขของผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลและมีการรายงานเข้าสู่ระบบอาจจะต่ำกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อได้ค่อนข้างมาก (เนื่องจากผู้ติดเชื้อบางคนอาจจะไม่มีอาการและอาจไม่มาโรงพยาบาล) กรณีที่เลวร้ายที่สุดอาจมีผู้ป่วยที่รายงานเข้ามาที่กรมควบคุมโรคประมาณ 1.6 ล้านคน ในกรณีระดับกลางประมาณ 1 ล้านคน และในกรณีที่ดีที่สุดน่าจะมีประมาณ 200,000 คน
“ส่วนตัวเลขคาดการณ์ในระยะสั้นถึง 15 เมษายนนี้ เลวร้ายที่สุดน่าจะมีผู้ป่วยประมาณ 25,000 คน ในกรณีที่ดีที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 7,000 คน โดยคิดจากฐานว่าสามารถสร้างระยะห่างทางสังคมได้มากน้อยแค่ไหน”
นพ.ธนรักษ์ เสริมว่า สำหรับการต่อสู้กับโควิด-19 ทุกประเทศในโลกมียุทธศาสตร์เดียวกันคือชะลอการระบาดของโรคออกไปให้ยาวนานที่สุดและถ้ายุติได้ก็จะพยายามยุติ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะทำให้ระบบสุขภาพสามารถรับมือกับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็วนี้ได้
เมื่อไหร่จะจบ?
จากตัวเลขข้างต้นทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ทรัพยากรด้านสาธารณสุขของไทยที่มีอยู่จะเพียงพอรับมือหรือไม่? นพ.ธนรักษ์ ตอบว่า
“ที่น่ากังวลที่สุดน่าจะเป็นจำนวนเตียงของผู้ป่วยอาการรุนแรง ถามว่าพอไหม ถ้าเป็นกรณีระดับกลาง ผมคิดว่าก็ไม่น่าจะไหว เพราะฉะนั้นจะต้องวิ่งอยู่ระหว่างกรณีกลางๆ กับกรณีที่ดีที่สุด ถ้าเป็นกรณีที่ดีที่สุดนี่ไหวแน่นอน แต่ถ้าเป็นกรณีระดับกลาง ผมคิดว่าจะต้องเพิ่มอีกหลายอย่าง ซึ่งตอนนี้ผมเข้าใจว่าทางกระทรวงสาธารณสุขก็กำลังเพิ่มทรัพยากรเต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์: วางยุทธศาสตร์รับมือโควิด-19 ตามบริบทพื้นที่ ยื้อเวลาให้นานที่สุด
“ส่วนตัวเลขคาดการณ์ในระยะสั้นถึง 15 เมษายนนี้ เลวร้ายที่สุดน่าจะมีผู้ป่วยประมาณ 25,000 คน ในกรณีที่ดีที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 7,000 คน โดยคิดจากฐานว่าสามารถสร้างระยะห่างทางสังคมได้มากน้อยแค่ไหน”