งานวิจัย โควิด-19 โดยอาศัยข้อมูลต้นแบบการระบาดในประเทศจีนช่วงมกราคมต่อเนื่องกุมภาพันธ์ 63 ชี้ว่าการระบาดของไวรัส SARS-CoV-2 ต้นเหตุของโรคปอดอักเสบ COVID-19 ส่วนใหญ่มากจากผู้ติดเชื้อที่แทบไม่แสดงอาการป่วย โดยเฉพาะช่วงก่อนคำสั่งปิดเมืองเมื่อ 23 มกราคม นั้น 86% ของการติดเชื้อ มาจากการแพร่เชื้อของผู้ที่แทบไม่แสดงอาการป่วย (Stealth transmission)
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย นำโดย ศาสตรจารย์เจฟฟรีย์ แชแมน (Jeffrey Shaman) ได้ใช้แบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์ลักษณะการแพร่ระบาดของไวรัส SARS-CoV-2 ในประเทศจีนโดยแยกเป็น 2 ช่วงคือ 10 มกราคม ถึง 23 มกราคม และ 24 มกราคม ถึง 8 กุมภาพันธ์ 63
ผลจากแบบจำลองบอกว่าในส่วนบุคคลต่อบุคคลแล้ว ส่วนใหญ่ของการติดเชื้อไวรัสนี้มากจากผู้ไม่แสดงอาการป่วยหรือมีอาการให้เห็นน้อยมากในช่วงแรกของการแพร่ระบาดในจีน และเริ่มลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังมีการกักกันพื้นที่โดยคำสั่งจากรัฐบาล
ศาสตรจารย์เจฟฟรีย์ แชแมน กล่าวว่าผู้จำนวนผู้ป่วยที่มีในรายงานนั้นเป็นแค่ส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็ง ส่วนที่เหลือที่ยังแพร่เชื้อไปโดยไม่รู้ตัวมีจำนวนมากกว่าที่เห็นในรายงานหลายเท่า
ณ เวลาที่กำลังเขียนบทความนี้ ยอดผู้ป่วย COVID-19 ทั่วโลกที่เป็นยอดยืนยันได้ผ่านหลัก 200,000 รายแล้ว หากเป็นไปตามข้อสมมุติฐานของ ศาสตรจารย์เจฟฟรีย์ แชแมน ย่อมหมายถึงมีผู้ป่วยที่เป็นตัวแพร่เชื่อแบบไม่รู้ตัวเพราะไม่แสดงอาการอีกอาจจำนวนถึงล้านราย
ขอบคุณข้อมูลจาก https://stem.in.th
ทีมวิจัยตีพิมพ์ผลงานลงใน https://science.sciencemag.org/content/early/2020/03/13/science.abb3221