หมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เผย เพราะคำว่าไม่น่ากลัวนั้นมีส่วนทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสทางฝั่งยุโรปเลวร้าย นอกจากการกักตัวแล้ว สถานการณ์ในบ้านเราตอนนี้ ขั้นตอนหรือมาตรการใดที่ต้องนำมาใช้เพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
26 มีค. 63 รายงานข่าวแจ้งว่า ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ว่า
Aday bulletin 14/3/63
ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
ถูกต้อง แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมด เพราะยังมีเรื่องของศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณี อย่างในอิหร่านเป็นประเทศตะวันออกกลาง ต้องมีการละหมาด คุกเข่าและก้มศีรษะลงไปที่พื้น ซึ่งเต็มไปด้วยเชื้อไวรัส เมื่อแตะพื้นก็นำมือนั้นมาสัมผัสที่ใบหน้า รวมทั้งเมื่อมีคนเสียชีวิต ญาติๆ จะต้องไปอำลาเป็นครั้งสุดท้ายด้วยการกอดและจูบ นี่คือทางแพร่เชื้อไวรัสที่รวดเร็วมาก ในขณะที่ประเทศจีน เมื่อเสียชีวิตจะเผาทันที
ส่วนการระบาดของทางฝั่งยุโรปอย่างอิตาลี ทักทายกันด้วยการกอดและหอมแก้ม บวกกับมีความเชื่อเรื่องการไม่ใส่หน้ากากอนามัย เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญในยุโรปมักจะใช้คำว่า คนปกติไม่ให้ใส่หน้ากาก แต่มันผิด ผู้เชี่ยวชาญจีนก็ออกมาบอกว่า เมื่อใดก็ตามที่คุณเข้าไปในที่ชุมชน คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนที่ยืนอยู่ห่างคุณออกไป 1 เมตร จะมีเชื้อไวรัสหรือเปล่า ในเมื่อคุณรู้ว่าตรงนี้เป็นละอองฝอย คุณแค่ใส่หน้ากากเพื่อปิดละอองฝอยทุกคน ก็จะช่วยป้องกันเชื้อไวรัสเข้าสู่ตนเองและป้องกันไม่ให้ไวรัสจากตัวเองไปสู่คนอื่นได้
นอกจากการกักตัวแล้ว สถานการณ์ในบ้านเราตอนนี้ ขั้นตอนหรือมาตรการใดที่ต้องนำมาใช้เพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
Aday bulletin 14/3/63
ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
หนึ่ง เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่สบายต้องแยกตัว สอง ไม่พาตัวเองเข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง สาม ต้องมีการทำความสะอาดเพื่อฆ่าไวรัสในพื้นที่สาธารณะ รวมทั้งระบบขนส่งต่างๆ อย่างเอ็มอาร์ที บีทีเอส เพราะมีข้อพิสูจน์ออกมาแล้วว่าเชื้อไวรัสจากผู้ติดเชื้อที่มีอาการน้อยจะกระจายตามรอบๆ ตัวพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นที่โต๊ะ ห้องน้ำ ลูกบิดประตู อ่างล้างมือ หรือแม้กระทั่งชักโครกก็มีไวรัสเต็มไปหมด
ทีนี้เมื่อในบีทีเอสมีเชื้อไวรัสจากคนหนึ่ง เชื้อก็จะไปติดบางส่วนของพื้นที่คนข้างๆ เช่น เสื้อ คนข้างๆ ก็เผลอจับเสื้อแล้วลืมล้างมือ แล้วสัมผัสที่ใบหน้าหรือปากอย่างไม่รู้ตัว ก็ติดเชื้อไวรัสไปด้วยได้
ที่สำคัญจะต้องมีการเลื่อนเวลาไม่ให้ผู้คนรวมกันเป็นหมู่มาก เช่น ออกมาตรการให้ทำงานที่บ้านเพื่อลดการใช้บริการสาธารณะต่างๆ และเข้ามาแออัดในที่ทำงาน
แต่ถ้าจำเป็นต้องมาทำงานเพราะติดประชุม ก็ต้องจัดที่นั่งห่างกันให้มากที่สุด รวมทั้งการกินข้าวในเวลาพักกลางวัน โดยทางด้าน ‘หมอแก้ว’ – ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้บอกว่า ต้องปล่อยพักกลางวันให้กินข้าวไม่พร้อมกัน เพื่อให้เกิดการกินแบบหนึ่งโต๊ะหนึ่งคน พร้อมเลื่อนเวลาเลิกงาน ปล่อยกลับบ้านให้ไม่พร้อมกัน เพื่อลดการให้ผู้คนเข้ามาอยู่รวมกันในที่เดียวจำนวนมากๆ เช่นกัน
และต้องใช้มาตรการ Full Protection โดยเฉพาะผู้ให้บริการสาธารณะ ทางด้านผู้เชี่ยวชาญจีนแนะนำว่า ควรให้คนขับรถขนส่งสาธารณะ คนขับรถโรงเรียน หรือคนขับแท็กซี่ รวมถึงหมอและพยาบาล ใส่ชุดป้องกันไวรัสเต็มรูปแบบ และต้องดูแลตัวเองให้ดีกว่าผู้คนทั่วไป เพราะคนเหล่านี้จะต้องเจอกับผู้คนมากมาย อย่างคนขับรถโดยสารประจำทางก็จะต้องเจอกับผู้โดยสารขึ้นลงตอนทั้งวันและอยู่แต่ในรถ ในขณะที่ผู้โดยสารขึ้นมาแล้วก็ลงไป หากคนเหล่านี้ติดเชื้อไวรัสก็จะสามารถแพร่เชื้อให้กับคนอื่นๆ ในรถต่อได้