โควิด-19 วันที่ 14 เม.ย. นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า
“Gonzalo Otazu ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้าน Biomedical Science ที่ New York Institute of Technology ได้ตั้งข้อสังเกตประเทศญี่ปุ่น มีอัตราตายจากโรคโควิด-19 ต่ำ 0.28 ต่อล้านประชากร อาจเป็นเพราะญี่ปุ่นฉีดวัคซีน BCG ให้เด็กทุกคน ตั้งแต่ พ.ศ. 2490 การศึกษา 178 ประเทศ (ซึ่งมี 21 ประเทศ ไม่ให้วัคซีน BCG)
ช่วงระหว่าง วันที่ 9-24 มีนาคม สนับสนุนข้อสังเกตนี้ พบอัตราป่วยและเสียชีวิต จากโรคโควิด-19 ของประเทศที่ให้วัคซีน BCG แก่เด็กทุกคนเป็นเวลายาวนาน ต่ำกว่าประเทศที่ไม่ให้วัคซีนบีซีจี เกือบ 10 เท่า อัตราป่วยจาก 358.4 ต่อล้านประชากร ลดลงเหลือ 38.4 ต่อล้านประชากร และอัตราตายจาก 40 ต่อล้านประชากร ลดลงเหลือ 4.28 ต่อล้านประชากร
ประเทศสหรัฐอเมริกา อิตาลี สเปนและหลายประเทศในยุโรปตะวันตก เลิกนโยบายฉีดวัคซีน BCG นานแล้ว เพราะอุบัติการณ์วัณโรคต่ำมาก อัตราการป่วยและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ของประเทศเหล่านี้สูงมาก ที่น่าสังเกตประเทศโปรตุเกส (ซึ่งพรมแดนติดกับประเทศสเปน) ยังฉีดวัคซีน BCG พบอัตราป่วยและเสียชีวิตจากโควิด-19 ของโปรตุเกสต่ำกว่าสเปน 10 เท่า
ประเทศส่วนใหญ่ในโลก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไทย หลาย ๆ ประเทศในเอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ยุโรปตะวันออก อเมริกาใต้ แอฟริกา ให้วัคซีนแก่เด็กทุกคน อัตราป่วยและเสียชีวิตของประเทศเหล่านี้ ต่ำกว่าสหรัฐอเมริกาและยุโรปตะวันตกมาก ประเทศจีนให้วัคซีน BCG เหมือนกัน แต่ช่วงที่มีการปฏิวัติทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2509-2519 ไม่ได้ให้ต่อเนื่อง ประเทศไทยให้วัคซีน BCG ต่อเนื่อง ตั้งแต่ พ.ศ.2496 อัตราตายจากโควิด-19 ของไทยต่ำ 0.67 ต่อล้านประชากร
วัคซีน BCG เป็นวัคซีนป้องกันวัณโรค ผลิตจากเชื้อ Mycobacterium bovis ซึ่งได้จากฝีที่เต้านมของวัว ทำให้อ่อนฤทธิ์ลงโดยการเพาะเชื้อในอาหาร ซึ่งประกอบด้วย กลีเซอรอล มันฝรั่ง น้ำดี ถึง 230 ครั้ง เป็นเชื้อที่มีชีวิต เริ่มใช้ในโลกมา 99 ปีแล้ว ให้ไปแล้ว 3 พันล้านคน ฉีดเข้าผิวหนัง (intradermal) จำนวน 0.1 มล. ให้เด็กแรกเกิดทุกคน วัคซีนจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันวัณโรคในเด็ก โดยเฉพาะวัณโรคเยื่อหุ้มสมอง และวัณโรคแบบกระจายทั่วร่างกาย
นอกจากนี้ วัคซีนยังอาจช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันแบบไม่เจาะจง (non-specific immunity) เวลาได้รับเชื้ออื่น ๆ รวมถึงเชื้อไวรัสด้วย
ขณะนี้นักวิจัยในประเทศเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลียเริ่มให้วัคซีน BCG เปรียบเทียบกับยาหลอก ในคนกลุ่มเสี่ยง คือ คนสูงอายุ และบุคลากรทางการแพทย์ ศึกษาว่าวัคซีน BCG ช่วยลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ได้หรือไม่ เมื่อเทียบกับยาหลอก คาดว่าไม่กี่เดือนจากนี้ จะทราบคำตอบว่าวัคซีนนี้สามารถนำมาใช้ลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ได้หรือไม่
มีคนถามผมว่า คนไทยควรจะฉีดวัคซีน BCG เพื่อลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ตอนนี้เลยไหม วัคซีน BCG นี้ เราทราบดีว่า ถึงเคยฉีดแล้วตอนเด็ก ฉีดซ้ำ น่าจะปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย ราคาถูก ผมคิดว่าเราควรรอผลการศึกษา จะดีกว่า”