DSI เข้าตรวจเหมืองทองอัครา จ.พิจิต ค้นหาปมปริศนาเหตุรัฐบาลใช้ ม.44 สั่งปิดกิจการ ส่งผลกระทบเศรษฐกิจชุมชนลดความมั่นใจนักลงทุนต่างชาติ
นายพิเชษฐ์ ทองศรีนุ่น ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดทางน้ำทางทะเลและชายฝั่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ได้นำหมายศาลอาญา เข้าตรวจค้นภายในพื้นที่เหมืองแร่ทองคำชาตรี ของบริษัทอัครารีซอร์สเซส จำกัด ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เป็นครั้งที่ 2 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้สืบเนื่องจากมีการร้องเรียนมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ดำเนินคดีกับเหมืองแร่ทองคำ บริษัทอัครารีซอร์สเซส จำกัด ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร หมายเลขคดีที่ 17/59 โดยกล่าวหาว่า การทำเหมืองแร่ทองคำไม่ชอบด้วยกฎหมายและส่งผลกระทบต่อประชาชนให้ได้รับความเจ็บป่วย เสียชีวิต ในพื้นที่รอยต่อ จังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์ ทั้งนี้รัฐบาล โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ใช้มาตรา 44 ประกาศยุติกิจการเหมืองแร่ทองคำมาตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ส่งผลให้แรงงานนับพันคนต้องตกงานไปตามๆกัน อีกทั้งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนรวมไปถึงความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติจนเป็นเหตุถกเถียงเพื่อหาข้อสรุปว่า การทำเหมืองทองบุกรุกป่า ทำลายสิ่งแวดล้อม ปล่อยสารพิษ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจริงหรือไม่
โดยวันนี้ DSI จะเข้าร่วมตรวจพิสูจน์หาหลักฐานพยานซ้ำโดยมีกำหนดจะใช้เวลาในช่วงระหว่างวันที่ 16-18 พฤษภาคม 2560 ในการที่จะตรวจ 5 จุดใหญ่ในพื้นที่เขตสัมปทานบัตรเหมืองแร่ทองคำอัคราจำนวน 13 แปลง ครอบคลุมพื้นที 4,200 ไร่ โดยจะเดินสำรวจภาคพื้นดินและใช้โดรนหรืออากาศยานไร้คนขับบินหาจุดพิกัดเพื่อทำแผนที่จุดเกิดเหตุตรวจพิกัดพื้นที่ป่า ว่ามีการบุกรุกถือครองหรือไม่ ทั้งนี้เพราะมีข้อมูลจากเหมืองแร่ทองคำอัครา ยืนยันว่า การทำเหมืองทองถูกต้องตามหลักวิชาการของสากล
อย่างไรก็ตามนายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทอัครา รีซอร์สเซส ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับทราบเรื่องอย่างกระทันหันในตอนเช้าวันนี้ จึงไม่สามารถมาร่วมอำนวยความสะดวกได้ ประกอบกับขณะนี้เป็นช่วงระงับการดำเนินการ จึงมีแต่พนักงานในโรงงานที่ทำหน้าที่ดูแลเครื่องมือเครื่องจักรอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น แต่นายเชิดศักดิ์ ยืนยันว่า ยินดีเปิดประตูต้อนรับทุกหน่วยงานที่จะเข้ามาตรวจสอบ เพราะเชื่อมั่นว่าที่ผ่านมาเหมืองทองอัคราทำถูกต้องตามหลักวิชาการทุกอย่าง อีกทั้งแสดงหนังสือบันทึกข้อความของจังหวัดพิจิตร ที่ พจ 0033(2)/561 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2559 ซึ่งเป็นข้อสรุปที่ DSI ได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องประมาณ 40 หน่วยงาน พร้อมทั้งสื่อมวลชนที่เคยเข้าตรวจเหมืองทองในครั้งแรกไปแล้วนั้น ก็ไม่พบสิ่งใดผิดกฎหมายหรือผิดปกติ ดังนั้น จึงขอวิงวอนให้แจ้งข้อมูลเหล่านี้ให้สาธารณชนได้ทราบด้วย