สกสว. สร้างนโยบายรับสังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ หวังดึงพลัง ผู้สูงอายุ สร้างนวัตกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเพิ่มศักยภาพให้สังคม
วันที่ (29 พ.ย.) ผศ.ดร.ชูพักตร์ สุทธิสา ผู้อำนวยการภารกิจการจัดทำแผนบูรณาการ เพื่อชุมชนและพื้นที่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวถึงโครงการวิจัย เรื่องการพัฒนานวัตกรรมทางสังคม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของผู้สูงอายุประเทศไทย ว่า เป็นโครงการที่ช่วยสนับสนุนส่งเสริมการสร้างศักยภาพของผู้สูงอายุ ทำให้ผู้สูงอายุเข้ามามีส่วนร่วมคิดร่วมวิเคราะห์ปัญหาของตนเอง คิดค้นหารูปแบบนวัตกรรมมาใช้ในการจัดการและแก้ปัญหาชีวิต สร้างคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุเองภายใต้การมีศักดิ์ศรี การมีส่วนร่วม นวัตกรรมที่ผู้สูงอายุพัฒนาขึ้นไม่ใช่ไฮเทค แต่เป็นการดึงทรัพยากร ดึงทุนทางสังคมที่มีอยู่ในพื้นที่ ในกลุ่มเครือข่ายผู้สูงอายุเอง หรือแม้แต่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีอยู่ เข้ามาร่วมกันคิดร่วมกันสร้าง แล้วนำมาสู่การทดลองใช้ขยับไปสู่การออกแบบ เพื่อตอบสนองกับกลุ่มผู้สูงอายุเรียกว่าเป็นนวัตกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่สอดคล้องกับระบบนิเวศน์สิ่งแวดล้อม
ผศ.ดร.ชูพักตร์ กล่าวว่า ผู้สูงอายุจริงแล้วมีศักยภาพ สามารถที่จะดึงศักยภาพ หรือที่พลังทั้งหลายของเขามาใช้ประโยชน์ร่วมกัน ในการขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหา อาจจะนำไปสู่การขายเพิ่มรายได้ และจะนำไปสู่กองทุนในรูปแบบใหม่ ๆ คิดว่าในระยะยาวผู้สูงอายุสามารถที่จะเป็นกลไกในการร่วมกันในการตัดสินใจในชีวิตของเขาเองโดยที่ภาครัฐก็เข้ามาหนุนเสริม ส่งผลต่อการสร้างและดูแลสิ่งแวดล้อม เป็นชุมชนที่ทำให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีพึ่งพารัฐน้อยลง ถ้าชุมชนไหนมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์เรียนรู้หรือศูนย์ที่จะสร้างการพัฒนาและขยายผลได้ซึ่งในหลาย ๆ พื้นที่ก็ยกตัวเองขึ้นมาเป็นศูนย์นวัตกรรมผู้สูงอายุและก็มีการเข้ามาศึกษาเรียนรู้เพื่อเอาไปปรับใช้ อปท.หลายแห่งทั่วประเทศ ก็เข้ามาเรียนรู้ซึ่งคิดว่าอันนี้ คือ วิธีการขยายผลและต่อยอดนวัตกรรม
“การพัฒนาสวัสดิการผู้สูงอายุ ในยุคสังคมสูงวัย ในอนาคตข้างหน้า ว่า ในปี 2564 จะมีผู้สูงอายุค่อนข้างจะเต็มรูปแบบแล้ว ฉะนั้น การขับเคลื่อนในเชิงนโยบาย ก็คิดว่า ควรจะให้โอกาสกับการสร้างกลุ่ม ไม่ใช่การที่รัฐเข้ามาจัดการในรูปแบบเหมือนที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเบี้ยยังชีพหรืออะไรก็ตาม บางครั้งนโยบายเหล่านี้ก็อาจจะใช้ไม่ได้สอดคล้องเหมาะสมกับพื้นที่ การที่จะทำงานเกี่ยวกับผู้สูงอายุ อาจจะต้องมีการคัดกรองคัดสรรเหมือนทำงานกับคนยากจน คัดสรรว่ามีกลุ่ม มีความต้องการอะไร เพื่อที่จะขับเคลื่อนนโยบาย ซึ่งต้องทำจากข้างล่างขึ้นบนที่ให้ชุมชน อปท.ได้ร่วมกันทำวิจัย เราก็จะเห็นโมเดลหลาย ๆแบบเพราะฉะนั้นการขับเคลื่อนก็อยากเห็นว่าในรูปแบบของการทำวิจัยน่าจะขยายผล และขับเคลื่อนในเชิงนโยบายที่สอดคล้องเหมาะสมกับท้องถิ่นชุมชนมากขึ้น” ผศ.ดร.ชูพักตร์ กล่าว