อธิบดีกรมการปกครอง เข้มกฎหมาย 5 ข้อ เตือนผู้ผลิตและผู้จำหน่ายพลุ-ดอกไม้เพลิง ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง พร้อมกำชับทั่วประเทศดูแลความปลอดภัยประชาชน
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงที่จะถึงนี้ ประชาชนนิยมเล่นดอกไม้เพลิง จุดและปล่อย พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควันอย่างแพร่หลาย
และที่ผ่านมาพบว่ามีเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินบ่อยครั้ง เพื่อป้องกันอันตราย ลดความสูญเสียจากปัญหาดังกล่าว ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายควรปฏิบัติตามกฎหมายเคร่งครัด ดังนี้
1.การทำ สั่ง นำเข้า หรือค้าดอกไม้เพลิง ต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ซึ่งอาจกำหนดเงื่อนไขลงในใบอนุญาตว่าด้วยการเก็บรักษาดอกไม้เพลิงก็ได้ตามสมควร
2.ผู้ใดฝ่าฟืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียนท้องที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.การจุดและปล่อย พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน ต้องได้รับการพิจารณาอนุญาตจากนายอำเภอ หรือผู้อำนวยการเขตแล้วแต่กรณี ตามหลักเกณฑ์การอนุญาตที่กำหนดไว้ในประกาศจังหวัด หรือข้อบัญญัติกรุงเทพฯ โดยเคร่งครัด หากไม่มีประกาศจังหวัด หรือข้อบัญญัติกรุงเทพฯ ห้ามไม่ให้อนุญาตการจุดโดยเด็ดขาด
4.การฝ่าฟืนประกาศจังหวัด หรือข้อบัญญัติกรุงเทพฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5.นายทะเบียนท้องที่และเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 สามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ในการตรวจสอบแนะนำร้านค้าที่จำหน่าย และแหล่งผลิตให้เป็นไปตามกฎหมาย ต้องกวดขันห้ามไม่ให้มีการจำหน่ายนอกเหนือจากสถานที่ค้าที่ได้รับอนุญาตเป็นอันขาด
นายธนาคม กล่าวว่า กรมการปกครองได้เน้นย้ำให้นายอำเภอทั่วประเทศแจ้งให้ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่องว่าการจัดและปล่อยพลุ ต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ หากฝ่าฟืนต้องระวางโทษจำคุก ปรับเงิน หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ทุกอำเภอเตรียมแผนดูแลความปลอดภัยของประชาชนในเทศกาลลอยกระทง เตรียมพร้อมบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องมือ ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว ทันที ก็ขอความร่วมมือผู้ปกครองช่วยสอดส่องดูแลบุตรหลาน ไม่ให้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สุ่มเสี่ยงที่อาจเกินอันตรายเหล่านี้ด้วย