องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นโซล ประเทศเกาหลีใต้ ตระหนักถึงปริมาณ ฝุ่น PM2.5 เตรียมปลูกต้นไม้ให้ได้จำนวน 30 ล้านต้นภายในปีค.ศ. 2022 เพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ ฝุ่นละออง และลดความร้อนให้กับเมือง
ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ไม่ได้มีแค่ประเทศไทยและเพื่อนบ้านของเราเท่านั้นที่ประสบปัญหาคุณภาพอากาศย่ำแย่ เป็นพิษ อันส่งผลมาจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 เพราะในประเทศเกาหลีใต้เองก็ประสบปัญหาหนักเช่นเดียวกัน โดยมีสาเหตุหลักมาจากโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศจีน และโรงงานที่ใช้พลังงานถ่านหินภายในเกาหลีใต้เอง รวมถึงการใช้รถยนต์ดีเซล จึงมีการหามาตรการแก้ไขในหลายระดับตั้งแต่การปรับความรู้ความเข้าใจเรื่องสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชน และโครงการปลูกต้นไม้ก็เป็นหนึ่งในทางออกระยะยาว
ตั้งแต่ช่วงปี 2014 ถึงปัจจุบัน โซลมีโครงการปลูกต้นไม้ 15 ล้านต้น แต่ล่าสุดมีแผนปลูกเพิ่มอีก 15 ล้านต้น โดยจากการคาดการณ์แล้ว ต้นไม้จำนวน 30 ล้านต้นจะช่วยลดฝุ่นมลพิษที่เกิดจากควันรถยนต์ดีเซลเก่าได้ถึง 64,000 คันต่อปี และผลิตออกซิเจนเป็นปริมาตรเทียบเท่ากับที่ประชาชน 21 ล้านคนใช้หายใจในช่วงเวลาหนึ่งปี
ในช่วงแรกของโครงการ มีการลงทุนทั้งหมด 20 ล้านล้านวอนเพื่อสร้าง “เส้นทางลมธรรมชาติ” ภายในปี 2021 เพื่อดึงให้ลมเย็นและสะอาดพัดมาจากภูเขา Gwanaksan ทางตอนใต้ของโซล และภูเขา Bukhan ทางตอนเหนือของโซล เข้าสู่ใจกลางเมืองย่าน Gangnam และ Gangbuk เพื่อลดไอความร้อนภายในเกาะ และลดฝุ่นละอองขนาดเล็กลง โดยมุ่งเน้นไปยังโซนสถานศึกษาทั้งหมด 30 แห่ง ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะทำได้สำเร็จ 10 แห่งด้วยกัน
นอกจากนั้น จะมีการปลูกต้นไม้ 2.1 ล้านต้นตามแนวทางหลวงสายสำคัญ เช่น สาย Olympic-daero และสาย Gangbyeonbuk-ro เพื่อสร้างป่าที่ช่วยกำจัดฝุ่นละอองจากท้องถนน, ปลูกต้นไม้ 1.15 ล้านต้น ตามแนวแม่น้ำ Han เพื่อให้เกิดการฟอกอากาศให้สดชื่นขึ้น และยังมีการปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาบนเกาะกลางถนนบนเส้นทางที่มีควันจากท่อไอเสียมากที่สุด 100 แห่ง รวมทั้งสิ้นเป็นงบประมาณกว่า 480 พันล้านวอน ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม