กองสลาก เล็งแก้ปัญหา ลอตเตอรี่ ขายไม่หมดเหลือจำนวนมาก ลดเหลือใบละ 50-60 บาท ในช่วงวันที่ 1 ก.ค. 63
วานนี้ (18 มิ.ย. 63) นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต และประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยความคืบหน้ากรณี ลอตเตอรี่ล้นตลาด เนื่องจากมีคนซื้อน้อยลงในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (Covid-19)
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องอุปสงค์อุปทาน เมื่อสั่งจองมากกว่าความต้องการของตลาด ก็ทำให้ขายไม่หมดและต้องลดราคาลงมา ซึ่งไม่น่าเกี่ยวข้องกับความไม่เชื่อมั่นของสลากฯ แต่อย่างใด
นายพชร กล่าวต่อว่า สลากฯในงวดวันที่ 1 ก.ค.2563 สำนักงานสลากฯ ได้พิมพ์สลากฯออกมาจำหน่าย 98 ล้านฉบับ เพิ่มขึ้นจากงวดที่แล้ว โดยทั้งหมดเป็นการพิมพ์ตามยอดสั่งซื้อจริง ซึ่งในแต่ละงวดสำนักงานฯไม่สามารถกำหนดเองได้ว่าจะพิมพ์ออกมามากหรือน้อย ต้องขึ้นอยู่กับกลไกตลาด หากผู้ค้าจองน้อยก็จะพิมพ์น้อย ถ้าจองมากก็ต้องพิมพ์มาก ไม่สามารถบังคับหรือห้ามใครได้ ดังนั้น ปริมาณสลากฯ ที่ออกมาในแต่ละงวดขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ขายเองเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม การจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 16 มิ.ย.2563 ได้พบปัญหามีสลากฯเหลือค้างแผงจำนวนมาก จนพ่อค้าแม่ค้าต้องยอมเลหลังขายขาดทุน เหลือราคาต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เพียงใบละ 50-60 บาท
ส่วนสถานการณ์ลอตเตอรี่งวด 1 ก.ค.นี้ คาดว่าผู้ค้าจะประสบปัญหาลอตเตอรี่ขายไม่หมด เนื่องจากยังมีสลากฯพิมพ์ออกมาถึง 98 ล้านฉบับ ส่วนบรรดานายทุนยี่ปัวะ ต่างระมัดระวังตัวด้วยการตั้งราคารับซื้อลดลง หลังจากงวดต้องขาดทุนอย่างหนัก โดยรับซื้อสูงถึงใบ 82-85 บาท แต่ขายได้เพียง 50-60 บาท