รัฐบาลเล็งพิจารณา เยียวยาพระสงฆ์ ค่าบิณฑบาตและค่าอาหาร วันละ 100 บาทต่อ 1 รูป ยืนยันยังไม่สั่งปิดวัดพระแก้ว วัดระฆัง วันอรุณฯ
29 พ.ค. 63 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการคลายล็อกในระยะที่ 3 ว่า สำหรับมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 จะมีกิจการและกิจกรรมใดบ้างที่จะได้รับการผ่อนคลายเพิ่มเติมนั้น ต้องรอการประชุมศบค. ชุดใหญ่ในวันที่ 29 พ.ค.นี้
แต่เชื่อว่าไม่มีการคลายล็อกในส่วนของโรงภาพยนตร์ ซึ่งไม่ใช่เพราะเราไม่ให้หรือปิด แต่ที่ฟังจากผู้ประกอบการทราบว่ายังไม่มีหนังใหม่มาเข้าฉาย ส่วนร้านนวดแผนโบราณที่ต้องการให้ผ่อนคลายด้วยนั้น กลุ่มตัวแทนผู้ประกอบการร้านนวดก็ได้มีการร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรีแล้วเนื่องจากเดือดร้อน
ยืนยันว่าตอนนี้รัฐบาลดูทุกภาคส่วน แต่ถ้าเปิดบางส่วนแล้ว มีการแพร่ระบาดระลอก 2 ขึ้นมา จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะเราก็กลัว ซึ่งกิจการนวดมีการสัมผัสตัว แต่ก็เข้าใจความเดือดร้อนของผู้ประกอบกิจการนวด ขณะเดียวกันคนที่ชอบนวดก็อยากให้เปิด ดังนั้นต้องพิจารณาหลาย ๆ อย่าง
เมื่อถามถึงในส่วนของวัดจะมีการพิจารณาผ่อนปรนให้เปิดก่อนหรือไม่ เนื่องจากใกล้วันเข้าพรรษา นายเทวัญ กล่าวว่า ต้องรอดูใกล้ ๆ อีกนิด หากสามารถจัดการในบริเวณวัดให้นั่งห่างกันก็จะลองปรึกษาในที่ประชุมศบค. ว่าพอจะให้มีกิจกรรมภายในวัดได้หรือไม่ ซึ่งจริง ๆ แล้วตอนนี้ทุกวัดไม่มีคนเข้าไปทำบุญ เพราะทางวัดงดการจัดกิจกรรมทุกอย่าง และบางวัดเริ่มไม่มีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ส่วนการพิจารณาเยียวยาวัดที่ได้รับผลกระทบนั้นขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ ตัวอย่างในปี 2552 ตอนนั้นพระใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บิณฑบาตไม่ได้ เพราะมีเหตุการณ์ยิงพระ ครม. จึงได้ให้ค่าบิณฑบาตและค่าอาหารพระวันละ 100 บาทต่อ 1 รูป จึงจะใช้โมเดลนี้ในการคิดเรื่องเยียวยา
นายเทวัญ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ได้นำเรียนนายกฯ ทุกอย่างแล้ว ซึ่งนายกฯได้มอบหมายให้ตนพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยได้ทำเรื่องเสนอไปยังกระทรวงการคลังแล้ว โดยสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)
ทั้งนี้ มีวัดทั้งหมดกว่า 4 หมื่นวัด และพระเกือบ 3 แสนรูปที่ได้รับความเดือดร้อน คาดว่าใช้งบประมาณตกเดือนละ 400-500 ล้าน โดยจะให้เงินแต่ละวัดไปบริหารจัดการเองตามจำนวนพระที่มี
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยืนยันว่าไม่ได้ปิดวัด เช่น วัดพระแก้ว วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดระฆังโฆสิตารามก็เปิดให้เข้าชมได้ปกติ แต่เนื่องจากตอนนี้ไม่มีนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันคนไทยที่ไปเที่ยวเราก็ขอความร่วมมือ เพียงแต่ให้งดจัดกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา แต่ยังสามารถเข้าไปเที่ยววัดได้ตามปกติ
