หมอธีระวัฒน์ หรือ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเพจดฟสบุ๊คส่วนตัว ว่า เด็กน้อย ปัญหาของการปิดโรงเรียน และเปิดอย่างไรให้ปลอดภัย ตอนที่ 2 การเตรียมการเพื่อป้องกันระลอกสองรวมไปถึงเมื่อเปิดโรงเรียน คลายล็อกดาวน์ ควรจะมีการประเมินความเสี่ยงแพร่ระบาดระดับชุมชน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรักษาวินัย ไม่ให้มีการติดและแพร่เชื้อระหว่างบุคคล

หลายประเทศได้เริ่มเปิดการเรียนการสอนแล้ว ประเทศเราตามตัวเลขผู้ป่วยใหม่ดูจะดีกว่าหลายประเทศ จึงน่าจะใกล้พร้อมเปิดการเรียนแล้ว แต่เมื่อเปิดจะรู้ได้อย่างไรว่าเด็กที่กลับมา ไม่ได้มีใครที่เป็นอยู่แล้ว

เมื่อไม่มีผ่านไปอีกสองอาทิตย์จะรู้ได้อย่างไรว่าในโรงเรียนมีการกระจายของโรค เพื่อที่จะรีบจัดการ ซึ่งขณะนี้มีวิธีใหม่ๆ จากเดิมมีแต่การตรวจหาพันธุกรรมโดยการแยงจมูกซึ่งมีความแม่นยำสูงแต่บางรายเชื้ออยู่ลึกลงไปในปอดจึงตรวจไม่พบแต่แพร่เชื้อได้

การเตรียมการเพื่อป้องกันระลอกสองรวมไปถึงเมื่อเปิดโรงเรียน คลายล็อกดาวน์ ควรจะมีการประเมินความเสี่ยงแพร่ระบาดระดับชุมชน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรักษาวินัย ไม่ให้มีการติด และแพร่เชื้อระหว่างบุคคลจนเป็นลูกโซ่ แต่ในโรงเรียนเด็กเล็กนั้น การรักษาวินัยอาจจะทำได้ยาก

ยังควรเสริมด้วยการทราบสถานภาพการติดเชื้อที่รวดเร็ว เช่นสามารถระบุ ยืนยันและเก็บกักตัวเด็กที่ติดเชื้อได้อย่างครบถ้วน ทั้งที่มีอาการแบบปกติเช่นไข้ ไอ เพลีย แบบไม่ปกติที่อาการออกไปทางระบบอื่น หรือไม่มีอาการเลยก็ตาม

เริ่มตั้งแต่การตรวจคัดกรอง (Screening) ก่อนเปิดโรงเรียน มีความจำเป็นอย่างยิ่ง แม้เด็กจะดูปกติก็ตามแต่มีโอกาสที่จะต้องเข้าไปทำกิจกรรมและอยู่ด้วยกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง ในกรณีเช่นนี้ 4 วันก่อนหน้าที่จะเริ่มเปิดภาคเรียนจะต้องระวังตนสูงสุด ให้แน่ใจว่าไม่ได้รับเชื้อ

และ…วันเปิดเรียนให้ประเมินสถานภาพว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ด้วยการเจาะเลือดปลายนิ้ว

ทั้งนี้ เนื่องจากภูมิคุ้มกันระดับที่หนึ่ง ที่เรียกว่า IgM จะปรากฏตัวขึ้นหลังจากติดเชื้อประมาณวันที่ 4 ถึงวันที่ 6 ถ้าปรากฏว่ามี IgM ต้องมีการเฝ้าระวังว่าอาการจะรุนแรงหรือไม่

เพราะช่วงนี้จะเป็นช่วงที่แพร่เชื้อได้มาก ควรได้รับการแยงจมูกด้วยเพื่อคอนเฟิร์ม เด็กที่พบ IgM ไม่สามารถเริ่มไปโรงเรียนได้และจะต้องกักตัวที่สถานกักตัว 14 วัน จากนั้นใช้การตรวจแยงจมูกยืนยันว่าโอกาสแพร่เชื้อต่อต่ำ จึงสามารถกลับบ้านและกักตัวที่บ้านต่ออีก 14 วันเพื่อแน่ใจว่าเชื้อจะไม่หลุดออกมาอีก

ในกรณีที่เจาะเลือดผลออกมาเป็นภูมิคุ้มกันระดับที่สองที่เรียกว่า IgG แสดงว่ามีการติดเชื้อระยะหนึ่งแล้ว อาจจะอย่างน้อย 12-14 วัน ความเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตแม้ว่าจะน้อยลงแต่ยังอาจจะแพร่เชื้อได้ ในกรณีนี้อาจให้กักตัวที่บ้านระวังการแพร่เชื้อ 14 วัน

ลักษณะภูมิระดับที่สองนี้เป็นภูมิที่สำคัญ และควรตรวจหาว่า ในตัวภูมิ IgG นี้มีความสามารถในการยับยั้งเชื้อ (Neutralizing antibody) ได้มากน้อยเพียงใด ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าภูมินี้จะอยู่ได้นานกี่เดือน และร่างกายจะมีภูมิคุ้มกัน “ระบบความจำ” ได้ดีเพียงใด (Immunological memory)
ซึ่งถ้าความจำดี แม้มีติดใหม่ ร่างกายจะสร้างภูมิมาสู้กับไวรัสได้ทันที

ซึ่งถ้าในอนาคตมีหลักฐานว่าภูมิคุ้มกันต่อโควิด-19 อยู่ได้ตลอดกาลและป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้ เรื่องการใช้การตรวจเลือดเพื่อบ่งบอกสถานะของคนคนหนึ่ง และคลายล็อกเป็นคนๆไปเพราะว่าคนนี้ไม่ได้เป็นบุคคลเสี่ยงติดเชื้อหรือแพร่เชื้ออีกต่อไป หรือที่เราเรียกว่า immune passport ก็สามารถทำได้

คำถามต่อมาคือ หลังประเมินสถานภาพวันเปิดเรียนแล้ว เวลาเด็กกลับบ้านจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่ได้นำเชื้อมาแพร่ในโรงเรียน ฉะนั้นจะต้องมีการเจาะเลือดประเมินเป็นระยะ เช่นทุก 1 อาทิตย์ แต่คงเป็นการสุ่มเจาะเลือดเด็กจากแต่ละห้องดูความเปลี่ยนแปลงของภูมิคุ้มกันต่อโควิด-19

ทั้งนี้ เพื่อที่จะได้รับมือและกักกันเด็กในโรงเรียนและผู้ใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้โรงเรียนกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อแหล่งใหม่ของประเทศ จะเห็นได้ว่าการตรวจเลือดโดยใช้แอนติบอดี ซึ่งใช้การเจาะปลายนิ้วจากนั้นหยอดเลือดลงไปที่แผ่นกระดาษนั้นง่ายและมีราคาไม่แพง นอกจากโรงเรียนแล้ว วิธีเช่นนี้สามารถนำมาใช้ย่นเวลาการกักกันตัวหลังกลับมาจากประเทศสุ่มเสี่ยง หรือใช้ในการประเมินความเสี่ยงบุคคล ในธุรกิจการท่องเที่ยว

แม้แต่การประยุกต์ใช้ในการเปิดสนามกีฬา เปิดแหล่งแออัด การตรวจเช่นนี้จะทำให้ผู้ใช้บริการและสังคมปลอดภัยมากขึ้น สุดท้าย การตรวจแบบเหวี่ยงแหจะช่วยในการประเมินภาพรวมทั้งประเทศว่ามีการติดเชื้อมากมายเพียงใดแล้ว เพื่อสะท้อนให้เห็นระบบและระเบียบวินัยในการป้องกันโรคว่ายังคงเข้มแข็งหรือไม่ และมีประโยชน์ในการวางแผนการฉีดวัคซีนในคนที่ไม่เคยติดเชื้อ ด้วยการตรวจหาภูมิ

นอกจากการตรวจแอนติบอดีแล้วนั้น อาจสามารถเลือกวิธีแยงจมูก 10 คน และส่งตรวจเครื่องในรอบเดียวกัน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย จะเหมาะกับในกรณีที่การติดเชื้อในชุมชนอยู่ในระดับไม่สูงมาก เช่นมีผู้ติดเชื้อในชุมชนประมาณ 1-2% วิธีและขั้นตอนข้างต้นนี้สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ใน ‘Evaluating the efficiency of specimen pooling for PCR–based detection of COVID-19’ วารสาร Journal of Medical Virology ครับ.
หมอดื้อ การเตรียมการเพื่อป้องกันระลอกสองรวมไปถึงเมื่อเปิดโรงเรียน คลายล็อกดาวน์ ควรจะมีการประเมินความเสี่ยงแพร่ระบาดระดับชุมชน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรักษาวินัย ไม่ให้มีการติดและแพร่เชื้อระหว่างบุคคล

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

​กรมราชทัณฑ์ ยื่นหนังสือชี้แจง ป.ป.ช. ปมช่วย ‘ทักษิณ’ ไม่ต้องติดคุก

​กรมราชทัณฑ์ ยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช. ชี้แจง 5 ประเด็น ที่สังคมทั้งข้อสงสัย ปมให้การช่วยเหลือ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ไม่ต้องติดคุก

อากาศร้อนจัด! จนท.ดับไฟป่าทับลาน เกิดฮีทสโตรก-หยุดหายใจกะทันหัน

เร่งทำ CPR กลับคืน หลังอากาศร้อนจัด ทำเจ้าหน้าที่ป่าไม้ดับไฟป่าทับลาน เป็นฮีทสโตรก 3 ราย มี 1 รายหยุดหายใจกะทันหัน!

“เมษามหาโชค” เปิดดวง “ราศีกันย์” สาส์นจากไพ่พระพิฆเนศ

หมออาร์ต คเณชาพยากรณ์ เปิดไพ่รับสาส์นจากพระพิฆเนศ ทำนายดวง ราศีกันย์ ประจำเดือนเมษายน 2567

เจอแล้ว! กะโหลกมนุษย์ ใกล้บ่อน้ำ สภาพถูกแทะ คาดเป็นส่วนที่ตามหา

เจ้าหน้าที่ตำรวจพบชิ้นส่วน กะโหลกศีรษะแล้ว ใส่ถุงดำถูกนำมาทิ้งซอยตรงข้าม คาดตัวเงินตัวทองฉีกถุงขาด และอาจจะมีชิ้นส่วนถูกทิ้งอยู่ในบ่อน้ำอีก

เหิมเกริม! ลิงลพบุรีไม่แผ่ว ยกพวกฉีกป้ายต่อต้าน ไม่สนชาวบ้าน

ลิงลพบุรี เหิมเกริมไม่หยุด! ยกพวกฉีกป้ายต่อต้านทิ้ง ชาวบ้านไม่ทนแห่ติดป้ายเพิ่ม จนกว่ากรมอุทยานฯ จะมาจัดการ

4 สิ่งต้องระวัง! ห้ามวางไว้ปลายเตียง – มาดามฮวงจุ้ย

ฮวงจุ้ยห้องนอน อ.นภัสวรรณ จิรเจริญเวศน์ เจ้าของเพจ มาดามฮวงจุ้ย ชี้ชัดทุกปัญหาพลิกชะตาด้วยฮวงจุ้ย เผย 4 สิ่งที่ห้ามวางไว้ปลายเตียง อาจส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพ
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า