ดาวหางนีโอไวส์ ได้ถูกบันทึกภาพจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล หลังจากที่ดาวหางโคจรผ่านดวงอาทิตย์และกำลังเดินทางออกไปยังระบบสุริยะชั้นนอก ซึ่งจะได้พบอีกครั้งต้องรอไปอีก 7,000 ปี!
รายงานจากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) ระบุว่า ภาพถ่ายล่าสุดของดาวหางนีโอไวส์เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2563 แสดงให้เห็นโคมา (Coma) ของดาวหางที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นและแก๊ส นับเป็นครั้งแรกที่กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลได้ถ่ายภาพดาวหางดวงนี้ด้วยความละเอียดสูงสุด
นาซ่าพบ ดาวเคราะห์น้อย จ่อพุ่งเฉียดโลกก่อนวันเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯเพียง 1 วัน
ดาวหางนีโอไวส์ (C/2020 F3 NEOWISE) นับเป็นดาวหางที่สว่างที่สุดทางซีกโลกเหนือนับตั้งแต่การมาเยือนของดาวหางเฮล-บอปป์ (Hale-Bopp) เมื่อปี 2540 และขณะนี้มันกำลังมุ่งหน้าออกสู่ระบบสุริยะชั้นนอกด้วยความเร็ว 232,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะไม่กลับมาเข้าใกล้ดวงอาทิตย์อีกอย่างน้อย 7,000 ปี
ทึ่ง! นาซา พบ ดาวเคราะห์น้อย ลอยใกล้โลกครั้งประวัติการณ์
ใจกลางของดาวหางเรียกว่า นิวเคลียส เป็นน้ำแข็งที่มีขนาดเล็กเกินกว่าที่ฮับเบิลจะมองเห็นได้ ก้อนน้ำแข็งเหล่านั้นอาจมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งจากภาพถ่ายของฮับเบิลแสดงให้เห็นว่าส่วนของกลุ่มแก๊สและฝุ่นขนาดใหญ่ที่ห่อหุ้มนิวเคลียสมีขนาดใหญ่ถึง 18,000 กิโลเมตร พุ่งออกมาจากนิวเคลียสคล้าย ๆ กับไอพ่น ปรากฏให้เห็นเป็นรูปกรวยของฝุ่นและแก๊ส จากนั้นจะโค้งเป็นโครงสร้างคล้ายพัดที่กว้างขึ้นเรื่อย ๆ จากการหมุนของนิวเคลียส
นักวิจัย เผย ดาวแคระขาว อาจเป็นแหล่งผลิตธาตุคาร์บอนซึ่งใหญ่ที่สุดในเอกภพ
ภาพถ่ายจากฮับเบิลอาจช่วยให้เห็นสีของฝุ่นและแก๊สของดาวหางที่เปลี่ยนไปเมื่อดาวหางเคลื่อนที่ออกจากดวงอาทิตย์ อาจช่วยอธิบายว่าความร้อนจากดวงอาทิตย์ส่งผลต่อโครงสร้างของฝุ่นที่โคมาของดาวหางอย่างไร ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถระบุคุณสมบัติที่แท้จริงของดาวหางได้ ซึ่งอาจเป็นองค์ความรู้สำคัญที่จะอธิบายสภาพแวดล้อมของระบบสุริยะในยุคแรกเริ่ม
ขณะนี้ นักวิจัยของ NASA ได้พยายามที่จะเจาะลึกข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อดูว่าเราจะสามารถยืนยันอะไรได้อีกบ้างจากภาพถ่ายของฮับเบิล