ฝุ่น PM2.5 กลับมาอีกครั้ง พบค่าฝุ่นละอองในระดับสูง 7 พื้นที่ของกทม. มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ส่วนภาคเหนือยังพบปัญหาไฟป่าหมอกควัน
1 ก.พ. 63 สถานการณ์ ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กลับมาอีกครั้งเมื่อ กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 54 สถานี ตรวจวัดค่าได้ 40 – 72 มคก./ลบ.ม. (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม)
โดยปริมาณฝุ่นละอองในภาพรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกพื้นที่จากเมื่อวาน( 31 ม.ค.) พบพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) 46 พื้นที่ พบมีฝุ่นในระดับสูง 7 พื้นที่ คือ
- ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ,
- เขตลาดกระบัง
- เขตสวนหลวง
- เขตคลองเตย
- ต.อ้อมน้อย อ.กระทมแบน จ.สมุทรสาคร
- เขตยานนาวา
- ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้ เนื่องจากมีลมสงบถึงลมอ่อน ฝุ่นละอองจึงกระจายตัวได้น้อย ประกอบกับ สภาพการจราจรหนาแน่นและติดขัดสะสมหลายเส้นทาง ทำให้ฝุ่นละอองเกิดการสะสมมากขึ้น โดยอยากให้ประชาชนหลีกเลี่ยงไปใช้รถโดยสารสาธารณะแทนรถยนต์ส่วนบุคคลช่วงวิกฤติฝุ่นละออง
ขณะที่สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ 9 จังหวัดวันนี้ (1 ก.พ.63) คุณภาพอากาศมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจวัดได้ระหว่าง 21 – 68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10) อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ภาพรวมแนวโน้มค่าฝุ่นละอองลดลงในหลายพื้นที่จากเมื่อวานนี้ (31 ม.ค.63) โดยค่าฝุ่น PM 2.5 และ PM 10 ลดลงจากระดับสีแดงลงมาอยู่ในระดับสีส้มแล้ว 11 พื้นที่ โดยยังพบปัญหาไฟป่าหมอกควันที่เกิดจากการเผาในที่โล่งอยู่ โดยเฉพาะการเผาไร่อ้อยของเกษตรกร จึงขอความร่วมมือประชาชนหยุดและลดการเผาในพื้นที่เสี่ยงฝุ่นละอองพุ่งสูงกระทบประชาชนในพื้นที่ได้รับอันตรายต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ได้ทางเว็บไซต์ Air4Thai.com แอปพลิเคชั่น Air4Thai และ bangkokairquality.com
อ่านข่าว Bright Today