ฝุ่นพิษ PM2.5 พื้นที่กทม.-ปริมณฑลมีผลกระทบต่อสุขภาพ 7 พื้นที่ เตือนลดกิจกรรมกลางแจ้ง ส่วนภาคเหนือสถานการณ์วิกฤติ เตือนงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง
14 ม.ค. 63 กรมควบคุมลพิษ เผยผลตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรุงเทพมหานคร จำนวน 49 สถานี ตรวจวัดค่าได้ 27 – 57 มคก./ลบ.ม. (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม) โดยปริมาณฝุ่นละออง (PM2.5) ในภาพรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเช้าเมื่อวาน (13 ม.ค.)
โดยพบพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 7 พื้นที่ (พื้นที่สีส้ม) ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ควรลดทำกิจกรรมกลางแจ้งและติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ คพ. ยังคงรายงานสถานการณ์และแจ้งประสานข้อมูล ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุม กำกับ ดูแล ภารกิจตามมาตรการ “ภายใต้แผนปฏิบัติการ ขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ” อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาสถานการณ์ฝุ่นละอองให้กลับสู่ปกติ
ส่วนสถานการณ์คุณภาพอากาศพื้นที่ภาคเหนือ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ คุณภาพดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
โดยสารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐานได้แก่ ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 26 – 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) เกินมาตรฐานที่บริเวณ เกินมาตรฐานที่บริเวณต.แม่ปะ อ.แม่สอด ตาก, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง พะเยา, ต.พระบาท อ.เมือง ลำปาง, ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.บ้านกลาง อ.เมือง ลำพูน, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย เชียงราย, ต.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง เชียงใหม่, ต.สุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่, ต.นาจักร อ.เมือง แพร่
ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 35 – 133 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) เกินมาตรฐานที่บริเวณ เกินมาตรฐานที่บริเวณต.แม่ปะ อ.แม่สอด ตาก