ลักลอบเผาป่า |วันที่ (13 ธ.ค.) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ได้มีการประชุม morning Brief สภากาแฟ ระหว่างผู้อำนวยการทุกภาคส่วน ซึ่งที่ประชุมตนได้แจ้งให้ทราบ ว่า ให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ในปีนี้มีการเตรียมพร้อม ในการป้องกันและควบคุมไฟป่าเข้มข้น โดยให้ทุกหน่วยงาน ในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็น อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า หน่วยควบคุมไฟ หรือหน่วยงานอื่น ๆ ในสังกัดให้ใช้มาตรการในการป้องกัน และควบคุมไฟป่าอย่างเคร่งครัดตามนโยบายฯ และในปีนี้ผู้ใดลักลอบจุดไฟเผาป่า ทำให้เกิดไฟไหม้ป่า ในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ในเขตป่าอนุรักษ์ หากถูกจับได้จะมีโทษสูงสุด จำคุกตั้งแต่ 6 ปี ถึง 30 ปี และปรับตั้งแต่ 6 แสนถึง 3 ล้านบาท
“หน่วยงานได้ตั้งเงินรางวัลนำจับ หากมีผู้ใดแจ้งเบาะแส ทำให้สามารถจับกุมผู้กระทำผิดเผาป่า ในเขตป่าอนุรักษ์ได้ จะได้รับเงินรางวัลนำจับ จำนวน 1 หมื่นบาท โดยมารับเงินได้ที่สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) จ.ราชบุรี และในปีนี้ จะมีการสำรวจการถือครองที่ดิน ถือครองของประชาชน ตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติมาตรา 64 และตามกฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มาตรา 121 ให้แล้วเสร็จตามที่กฎหมายกำหนดภายใน 240 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 62 – 21 ก.ค. 2563” ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ระบุ
โดยกฎหมายดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ไม่มีที่ดินทำกิน และการสำรวจต้องอยู่ในวัตถุประสงค์ตามมติครม. 30 มิ.ย.41 จะต้องเป็นราษฎรเดิม ทำกินอยู่ในที่เดิม หรือเป็นทายาทของราษฎรเดิมนั้น และทำกินต่อเนื่องก่อนวันประกาศเขตสงวนหวงห้ามครั้งแรกหรือหลังประกาศเขตสงวนหวงห้าม ห้ามไปสำรวจให้กับบุคคลภายนอก ที่มีการซื้อ ขาย เปลี่ยนมือ หรือโอนสิทธิในที่ดินที่มีการถือครองในเขตป่าอนุรักษ์โดยเด็ดขาด
“บุคคลภายนอกที่ได้มีการซื้อ ขาย เปลี่ยนมือ หรือรับโอนสิทธิที่ดินในเขตป่าอนุรักษ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีความผิดตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติ มาตรา 19 และกฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มาตรา 55 ฉบับใหม่ ปี 2562 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 30 ปี ปรับสูงสุด 3 ล้านบาท เช่นกัน” นายนิพนธ์ กล่าว