พ.ร.บ. จราจรทางบก – รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล เผยผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ครม.อนุมัติหลักการแก้ไขกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน ปี2560 โดยขยายอายุการใช้งานรถแท็กซี่จาก 9 ปีเป็น 12 ปี นับแต่วันจดทะเบียนครั้งแรก และกำหนดให้สามารถใช้โทรศัพท์มือถือแทนอุปกรณ์ ระบบ หรือเทคโนโลยีติดตามรถได้ แต่ต้องมีการตรวจสภาพรถให้พร้อมใช้งานตามกฎหมายด้วย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่เจ้าของรถและผู้ประกอบอาชีพขับรถยนต์รับจ้างในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19
ปรับปรุง พ.ร.บ. จราจรทางบก ให้ทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ครม.อนุมัติร่าง พ.ร.บ. จราจรทางบก เป็นการปรับปรุง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 บางประการ ซึ่งบังคับใช้มานาน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงในการใช้รถใช้ถนนในปัจจุบัน ลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและป้องกันการกระทำความผิดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีสาระสำคัญเช่น
เคาะแล้ว! ครม. อนุมัติขยายอายุการใช้งาน รถแท็กซี่ จาก 9 ปี เป็น 12 ปี
กรมขนส่ง เพิ่มมาตรการรถโดยสาร แท็กซี่ ที่เดินทางข้ามเขตพื้นที่ต่างจังหวัด
1.กำหนดให้รถบรรทุก รถบรรทุกคนโดยสาร และรถจักรยานยนต์ สามารถใช้ช่องเดินรถด้านขวาได้ในกรณีจำเป็น และแก้ไขเพิ่มเติมน้ำหนักของรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่ไม่ต้องใช้ช่องเดินรถด้านซ้ายสุด จาก 1,600 กิโลกรัม เป็น 2,200 กิโลกรัม
2.ปรับปรุงลักษณะความผิดเกี่ยวกับการขับรถ ในมาตรา 43 (8) โดยกำหนดเฉพาะความผิดในกรณีการขับขี่ที่เห็นได้ว่า ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น เพิ่มอัตราโทษสำหรับความผิดดังกล่าวเป็นจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.กำหนดให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจขอให้แพทย์ตรวจพิสูจน์ผู้ขับขี่หรือบุคคลที่อาจเป็นผู้ขับขี่ ในกรณีที่อยู่ในภาวะหมดสติจนไม่อาจให้ความยินยอมในการตรวจสารเสพติดหรือตรวจระดับความเมาสุราได้ โดยให้ทำได้เท่าที่จำเป็นและต้องไม่เป็นอันตรายต่อบุคคลนั้น
4.ปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการรัดเข็มขัดนิรภัย เช่น 1)กำหนดหน้าที่ของผู้ขับขี่และคนโดยสารต้องรัดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาในขณะโดยสารรถ 2)ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี นั่งแถวหน้า ยกเว้นมีที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กและมีวิธีป้องกันอันตรายไว้แล้ว และ3)ห้ามไม่ให้มีผู้โดยสารนั่งตอนหน้าเกินว่า 2 คน ในขณะขับขี่ เป็นต้น
5.ปรับปรุงมาตรการป้องกันการแข่งรถในทาง เช่น 1)กำหนดให้ผู้ที่รวมกลุ่มกันในทางพร้อมด้วยรถตั้งแต่ 5 คันขึ้นไป โดยมีการนัดหมายแข่งรถ หรือมีพฤติการณ์ที่แสดงถึงจะมีการแข่งรถ ให้ถือว่าเป็นผู้พยายามแข่งรถในทาง เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าเป็นอย่างอื่น 2) กำหนดให้ผู้ที่รับการปรับแต่งรถเพื่อแข่งรถในทาง ให้ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการแข่งรถในทาง เป็นต้น
6.ปรับปรุงมาตรการควบคุมการใช้รถที่มีสภาพไม่ถูกต้อง เช่น โดยกำหนดให้กรณีที่รถไม่พร้อมใช้งาน ให้เจ้าพนักงานสั่งห้ามการใช้รถนั้นและผู้ขับขี่ต้องนำรถดังกล่าวให้พ้นทางเดินรถโดยเร็วที่สุด เป็นต้น
7.ปรับปรุงบทกำหนดโทษ เช่น 1)เพิ่มบทกำหนดโทษสำหรับความผิดฐานขับรถในขณะถูกพักใช้อนุญาตขับขี่ตามมาตรการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2)ปรับปรุงบทกำหนดโทษสำหรับความผิดขับรถก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินและไม่หยุดเพื่อให้ความช่วยเหลือตามสมควร 3)ปรับปรุงการกำหนดโทษความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น และ 4)เพิ่มโทษ เช่น มาตรา 149 จากเดิมปรับไม่เกิน 500 บาท เพิ่มเป็น ปรับไม่เกิน 2,000 บาท มาตรา 153 จากเดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาท เพิ่มเป็น ปรับไม่เกิน 4,000 บาท เป็นต้น
ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก ได้ผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ในลำดับต่อไป จะส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป