ผบก.ภ.จว.ลพบุรี แถลงความคืบหน้าคดี โจรปล้นทองลพบุรี เร่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานแข่งเวลา ย้ำ ต้องการภาพกล้องหน้ารถแกะรอยคนร้าย เบื้องต้นสอบพยาน เรียงเส้นทางผ่านวงจรปิด เชื่อยังอยู่ในประเทศ!
จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนสั้นติดที่เก็บเสียง บุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ต.กกโก อ.เมือง จ.ลพบุรี โดยก่อเหตุอุกฉกรรจ์จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นพนักงานหญิงประจำร้านทอง ลูกค้าภายในห้าง และเด็กชายวัย 2 ขวบ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 4 ราย เกิดเหตุเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (13 ม.ค.) ที่ สภ.เมืองลพบุรี พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ภูบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี เปิดเผยความคืบหน้าคนร้ายก่อเหตุปล้นทองในห้างสรรพสินค้า จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ล่าสุดสอบปากคำผู้อยู่ในเหตุการณ์แล้วกว่า 20 ปาก ซึ่งยังมีบุคคลที่ต้องสอบปากคำเพิ่มเติมอีก
พล.ต.ต.ณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีนี้มีทุกวัน และมีการประชุมติดตามทุกวัน ชุดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานยังคงเป็นชุดเดิม ไม่ได้มีการเพิ่มกำลังแต่อย่างใด ซึ่งหากทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการมาว่าต้องการกำลังเพิ่มก็ให้แจ้งร้องขอได้ ทั้งในส่วนของกำลังและยุทโธปกรณ์
ในส่วนกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนีคนร้ายมีการนำมาร้อยเรียงได้มากแล้ว ในหลายประเด็นมีความชัดเจนขึ้น แต่ยังประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อยู่ในเส้นทางดังกล่าวช่วงเวลา 20.00-22.00 น.ของวันที่ 9 ม.ค. ที่มีกล้องหน้ารถและสามารถจับภาพคนร้ายได้ ให้แจ้งข้อมูลมาเพื่อให้ตำรวจตรวจสอบ เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายน่าจะยังไม่ได้หนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านแน่นอน
นอกจากนั้นพล.ต.ต.ณัฐพล กล่าวอีกว่า ในขณะนี้มีบางสื่อสำนักข่าว แผยแพร่ข่าวเท็จ จึงอยากขอความร่วมมืออย่านำเสนอข่าวเท็จดังกล่าว เพราะมีผลกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ อีกทั้งข่าวเท็จมีความผิดตามกฎหมายอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางไปได้หลายกิโลเมตร รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห้าง 97 ตัว เพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัยก่อนวันเกิดเหตุ ซึ่งในขณะนี้จากการก่อเหตุแล้วนั้น เชื่อได้ว่าคนร้ายมีทักษะด้านยุทธวิถี ทั้งการแต่งตัว, อาวุธที่ใช้, ลักษณะท่าทางและวิธีการยิง โดยขณะนี้มีการตรวจสอบอาวุธปืนที่ใช้ เพื่อจำกัดวงคนร้ายให้แคบลง