กรมขนส่งทางราง นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศผ่อนปรนล็อกดาวน์ในกิจการบางประเภท ทำให้มีประชาชนเดินทางโดยระบบรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น จนทำให้เกิดภาพของจำวนประชากรที่เข้ามาใช้บริการหนาแน่นมากขึ้น ทำให้มาตรการการรักษาระยะห่างทางสังคม Social Distancing เป็นไปได้ไม่เต็มที่นัก
เมื่อช่วงเช้าเวลา 06.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ตนจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นไปตามข้อห่วงใยของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เนื่องจากอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง
ทั้งนี้ รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมจึงมอบหมายให้กรมรางฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกันเพื่อวางมาตรการแนวทางให้ประชาชนมีความสะดวก ปลอดภัยในการเดินทาง โดยกรมรางฯ จึงได้ส่งหนังสือถึงหน่วยงานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้า ประกอบด้วย บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS, การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.), บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เพื่อขอความร่วมมือเข้มงวดการดำเนินงานตามนโยบายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม กรณีมีจำนวนผู้โดยสารเกินขีดความสามารถในชั่วโมงเร่งด่วนเช้าและเย็น
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเพิ่มเติมจากการดำเนินการเดิม 4 เรื่อง ได้แก่ 1.เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาสภาพรถ สภาพทาง อุปกรณ์ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดข้องในการให้บริการ 2.หากมีความหนาแน่นของผู้ใช้บริการที่เข้ามาในระบบเกินขีดความสามารถในการรองรับจนกระทบต่อการดำเนินมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ให้บริหารจัดการมาตรการจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการเข้าระบบในแต่ละคราว (Group Release) แบ่งเป็น 3 ตอน คือ ก่อนการขึ้น-ลง เข้าสู่ชั้นจำหน่ายบัตรโดยสาร, ก่อนการผ่านหน้าประตูกั้นจัดเก็บค่าโดยสาร และก่อนเข้าสู่ขบวนรถ
3.เพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ เกี่ยวกับแนวทางการใช้บริการตามข้อ 2. พร้อมทั้งขอความร่วมมือในการปฏิบัติ วางแผนการเดินทาง และเผื่อเวลาในการเดินทางเพื่อให้สามารถลดความหนาแน่นและคงการปฏิบัติมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมได้อย่างมีประสิทธิผล 4.เพิ่มเจ้าหน้าที่หรือสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาหรือในสถานการณ์ฉุกเฉินเร่งด่วน โดยหากมีอุปสรรคขัดข้องในการดำเนินการ ให้แจ้งอธิบดีกรมการขนส่งทางรางทันที
อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชน ให้วางแผนในการเดินทาง พร้อมทั้งพิจารณาหากสามารถดำเนินการการสลับหรือเหลื่อมเวลาในการทำงาน และเผื่อเวลาการเดินทาง นอกจากนี้ ให้ประชาชนป้องกันรักษาสุขอนามัย สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อป้องกันการกลับมาระบาดของเชื้อโควิด-19